ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์น่าจะชะลอตัวลงอย่างมากจนขยายตัวเพียง 3% ในปีนี้ อันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
ธนาคารโลกได้ออกรายงาน "เอเชียตะวันออกและแปซิฟิกในยุคโควิด-19" ในวันนี้ ซึ่งระบุว่า "ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริงน่าจะชะลอตัวลงอย่างมากจากที่โต 5.9% เมื่อปี 2562 เป็นขยายตัว 3.0% ในปี 2563 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับมาตรการกักกันชุมชนที่เกี่ยวข้อง"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้ประกาศให้เกาะลูซอน ซึ่งรวมถึงมหานครมะนิลา อยู่ภายใต้กฎกักตัวเพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายของประชาชน โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส
มาตรการกักกันดังกล่าวห้ามไม่ให้ประชาชนเดินทางหากไม่จำเป็น และได้ปิดธุรกิจและหน่วยงานรัฐบาลในลูซอน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% ของ GDP ทั้งประเทศ คำสั่งดังกล่าวมีผลถึงวันที่ 13 เมษายนนี้
รายงานของเวิลด์แบงก์ยังระบุด้วยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ปีนี้ค่อนข้างมืดมัว เมื่อประเมินจากผลกระทบที่โควิด-19 มีต่อทั้งโลก รวมถึงมาตรการกักกันที่ประกาศใช้ในลูซอน
รายงานระบุว่า "ปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลให้การแก้ปัญหาความยากจนมีความคืบหน้าช้าลง และทำให้ทางรัฐบาลต้องออกมาประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อประเมินจากผลกระทบที่การแพร่ระบาดมีต่อเศรษฐกิจ"