ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) คาดการณ์ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก (EAP) จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.1% ในปี 2563 จากระดับ 5.8% ในปี 2562 เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายอาดิทยา แมททู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาค EAP ของเวิลด์แบงก์ กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวเกี่ยวกับรายงานภาวะเศรษฐกิจเดือนเม.ย. 2563 ว่า บรรดาประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาค EAP ซึ่งกำลังฟื้นตัวจากภาวะตึงเครียดด้านการค้า กลับต้องมาเผชิญผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกทั้งความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยและความปั่นป่วนในตลาดการเงินทั่วโลก
นายแมททูเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เวิลด์แบงก์ได้คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2563 ไว้สองกรณี กล่าวคือ คาดการณ์จากกรณีฐานว่าจะขยายตัว 2.1% และคาดว่าจะขยายตัว -0.5% ในกรณีที่สถานการณ์แย่ลง
นายแมททูกล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการแก้ปัญหาความยากจน โดยรายงานก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่า ประชาชนเกือบ 35 ล้านคนจะสามารถหลุดพ้นจากความยากจนได้ในปีนี้ แต่รายงานล่าสุดประมาณการว่า ประชาชนที่จะสามารถหลุดพ้นจากความยากจนนั้น จะมีจำนวนลดลงเกือบ 24 ล้านคน เมื่อเทียบกับในช่วงที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และหากสถานการณ์เศรษฐกิจย่ำแย่ลงอีก ก็คาดว่าคนยากจนจะเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 11 ล้านคน
นอกจากนี้ เขายังได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ลงมือดำเนินการในทันที ซึ่งรวมถึงการลงทุนอย่างเร่งด่วนในด้านสาธารณสุข และมาตรการด้านการคลัง เพื่อลดผลกระทบอย่างรวดเร็ว ขณะที่ได้ย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ
"ประเทศในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก รวมถึงภูมิภาคอื่นๆ ต้องต่อสู้กับโรคนี้ด้วยกัน พร้อมทั้งเดินหน้าเปิดเสรีการค้า และประสานนโยบายเศรษฐกิจมหภาค" เจ้าหน้าที่เวิลด์แบงก์กล่าว