ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ และเมื่อพิจารณาตลอดไตรมาส 1/2563 ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติทรุดตัวลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
-- ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานข้อมูลล่าสุดว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 857,487 ราย และยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่ 42,107 ราย
รายงานของ CSSE ระบุว่า สหรัฐยังคงทำสถิติของการมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงที่สุดในโลก โดยอยู่ที่ 188,172 รองลงมาคือ อิตาลี 105,792 ราย, สเปน 95,923 ราย, จีน 82,279 ราย, เยอรมนี 71,808 ราย, ฝรั่งเศส 52,827 ราย , อิหร่าน 44,605 ราย และสหราชอาณาจักร 25,481 ราย
-- จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรัฐนิวยอร์กพุ่งขึ้นกว่า 9,300 ราย ส่งผลให้จำนวนรวมของผู้ติดเชื้ออยู่ที่ประมาณ 76,000 ราย แซงหน้ายอดผู้ติดเชื้อในมณฑลหูเป่ยของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัส ที่มียอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 67,801 ราย ณ วันที่ 30 มี.ค.
ทั้งนี้ รัฐนิวยอร์กถือเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในประเทศ
นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า "เราประเมินไวรัสนี้ต่ำเกินไป มันมีความรุนแรง และอันตรายมากกว่าที่เราคาดไว้"
นายคูโอโมยังเรียกร้องให้บุคลากรทางการแพทย์ทั่วสหรัฐเดินทางมายังนิวยอร์กเพื่อช่วยต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ขณะที่เขาเตือนว่าไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อทุกรัฐในสหรัฐ
-- ทำเนียบขาวเปิดเผยรายงานคาดการณ์ล่าสุดว่า อาจมีชาวอเมริกันประมาณ 100,000 - 240,000 รายเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 แม้ว่ารัฐต่างๆในสหรัฐได้ประกาศมาตรการให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) แล้วก็ตาม
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เตือนให้ประชาชนเตรียมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงของไวรัสโควิด-19 พร้อมกับเตือนว่า ชาวอเมริกันอาจจะเผชิญกับสถานการณ์ที่วิกฤตที่สุดในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้
-- โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐจะลดลง 9% ในไตรมาส 1 และทรุดตัว 34% ในไตรมาส 2 ซึ่งจะเป็นการดิ่งลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาดีดตัว 19% ในไตรมาส 3 ซึ่งจะเป็นการขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เมื่อพิจารณาทั้งปีนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะดิ่งลง 6.2% ซึ่งจะเป็นตัวเลขการขยายตัวที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่า อัตราการว่างงานจะพุ่งแตะ 15% ในปีนี้ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 9%
-- ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 120.0 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 132.6 ในเดือนก.พ. แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 110.0 โดยดัชนีความเชื่อมั่นถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน
-- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน เพิ่มขึ้นแตะระดับ 50.1 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 40.3 ในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัว และหากดัชนี PMI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต
ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 52 จากระดับ 35.7 ในเดือนก.พ.
-- สำนักงานสถิติและสำมะโนประชากรฮ่องกงเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของฮ่องกงดิ่งลง 46.7% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดภายในเดือนเดียว สู่ระดับ 2.27 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง
สำนักงานสถิติยังเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของฮ่องกงร่วงลง 21.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และดิ่งลง 23.1% เมื่อเทียบรายปี
ส่วนยอดค้าปลีกในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. ลดลง 31.8% เมื่อเทียบรายเดือน และดิ่งลง 33.9% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
รัฐบาลฮ่องกงระบุว่า จะยังคงจับตาต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน และผลกระทบจากโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจ และตลาดแรงงาน
-- สมาคมยานยนต์อเมริกัน (AAA) เปิดเผยว่า ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศของน้ำมันเบนซินสหรัฐอยู่ที่ระดับ 1.99 ดอลลาร์/แกลลอน ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่า 2 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
ราคาเฉลี่ยดังกล่าวลดลง 45 เซนต์ หรือ 18.4% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว และลดลง 70 เซนต์ หรือ 25.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
การดิ่งลงของราคาเกิดจากการที่อุปสงค์น้ำมันลดลง หลังรัฐบาลทั่วโลกออกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการเดินทางของประชาชน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการทำสงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงในรอบเกือบ 20 ปี
-- ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 3.9% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนธ.ค.
ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนธ.ค.
ราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในเมืองฟีนิกซ์ ซีแอตเติล และแทมปา
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาบ้านจะดิ่งลงในเดือนก.พ. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
-- นายเดิร์ก ฮอร์ดอร์ฟ รองประธานสหพันธ์เทนนิสเยอรมัน (DTB) กล่าวว่า คณะกรรมการจัดการแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดันจะจัดการประชุมฉุกเฉินในวันพุธนี้ โดยมีแนวโน้มที่จะประกาศยกเลิกการแข่งขันในปีนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ เทนนิสวิมเบิลดันมีกำหนดจัดการแข่งขันในวันที่ 29 มิ.ย.-12 ก.ค.
"มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจินตนาการว่าจะมีการจัดการแข่งขัน ท่ามกลางคำสั่งห้ามเดินทางทั่วโลก" นายฮอร์ดอร์ฟกล่าว
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เยอรมนีจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.พ., ฝรั่งเศส, เยอรมนี และอียูจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, อังกฤษจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมี.ค.จากมาร์กิต/ซีไอพีเอส และสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนก.พ. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เตรีมเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค., อียูจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือนก.พ., ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.พ.