องค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกอาจหดตัวลงเกือบ 1% ในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยพลิกผันอย่างรุนแรงจากที่ UN เคยคาดการณ์ก่อนไวรัสแพร่ระบาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 2.5%
แผนกกิจการด้านเศรษฐกิจและสังคมของ UN ระบุเตือนในรายงานว่า การหดตัวทางเศรษฐกิจอาจรุนแรงมากขึ้น หากการจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงดำเนินต่อไปจนถึงไตรมาส 3 ของปีนี้ และหากความพยายามในการกระตุ้นด้านการคลังไม่ได้ช่วยสนับสนุนรายได้ และการใช้จ่ายของผู้บริโภค
-- กระทรวงสาธารณสุข กิจการผู้บริโภค และสวัสดิการสังคมของสเปน รายงานว่า ณ วันที่ 1 เม.ย. 2563 จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ เพิ่มขึ้น 7,719 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั้งหมดพุ่งแตะ 102,136 ราย
ทั้งนี้ กรุงมาดริดเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีผู้ป่วยสูงถึง 29,840 ราย และผู้เสียชีวิต 3,865 ราย
-- ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานข้อมูลล่าสุดว่า ณ วันพุธที่ 1 เม.ย. ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้นอีก 884 ราย ทำสถิติเพิ่มขึ้นในวันเดียวที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ส่วนยอดรวมผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐอยู่ที่ 4,757 ราย และยอดรวมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 215,417 ราย
-- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (KCDC) เปิดเผยในวันนี้ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 89 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในประเทศขณะนี้อยู่ที่ 9,976 ราย
ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 4 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 169 ราย ขณะที่อัตราการเสียชีวิตในขณะนี้อยู่ที่ 1.69% และจำนวนผู้ที่รักษาหายแล้วอยู่ที่ 5,828 ราย
-- รัฐมนตรีสาธารณสุขอินเดียเปิดเผยว่า ณ ช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในอินเดียเพิ่มขึ้นเป็น 50 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นเป็น 1,965 ราย
ทั้งนี้ วันนี้นับเป็นวันที่ 9 แล้วที่รัฐบาลอินเดียใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นเวลา 21 วัน เพื่อสะกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยทางรัฐบาลได้กำหนดกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดเพื่อระงับการเคลื่อนไหวสัญจรของประชาชน นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้ระงับบริการทางถนน ทางรถไฟ และทางอากาศ ยกเว้นแต่บริการที่จำเป็นเท่านั้น
-- คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงในวันนี้ว่า ณ วันพุธที่ 1 เม.ย. จีนไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ที่เกิดจากการติดเชื้อภายในประเทศ แต่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่มาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 35 ราย
นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยจำนวน 170 รายที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้วเมื่อวันพุธ ส่งผลให้มีผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลแล้วรวมทั้งสิ้น 76,408 ราย
แถลงการณ์ระบุว่า จีนมีผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมด 81,589 ราย และเสียชีวิตรวม 3,318 ราย
-- ข่าวประชาสัมพันธ์จากรัฐบาลอังกฤษ ระบุว่า อังกฤษจะเลื่อนการประชุมเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ (COP26) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสก็อตแลนด์ ในวันที่ 9-20 พฤศจิกายน 2563 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
แถลงการณ์ระบุว่า "จากผลกระทบของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก การประชุม COP26 ในเดือนพ.ย.จึงไม่สามารถจัดขึ้นต่อไปได้ ซึ่งการกำหนดวันประชุมครั้งใหม่จะช่วยรับประกันว่าทุกฝ่ายจะสามารถหารือถึงประเด็นที่น่าสนใจได้ผ่านการประชุมที่สำคัญนี้ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มเวลาให้ทุกคนสามารถเตรียมความพร้อมได้มากขึ้นอีกด้วย"
แพทริเซีย เอสปิโนซา เลขานุการบริหารของ UN Climate Change กล่าวว่า โควิด-19 ถือเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ส่งผลกระทบต่อมวลมนุษยชาติ "แต่เราต้องไม่ลืมว่าภาวะโลกร้อนเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในระยะยาว"
-- ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนผ่านทางสถานีโทรทัศน์ว่า ผู้ใดก็ตามที่ฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์ จะถูกยิงทันที
แถลงการณ์ของปธน.ดูเตอร์เตระบุว่า "ผมได้สั่งการแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารว่า หากพวกคุณพบผู้ละเมิดมาตรการล็อกดาวน์ แล้วคนเหล่านั้นจะสู้กลับ หรือทำให้ชีวิตของพวกคุณตกอยู่ในอันตราย พวกคุณยิงคนเหล่านั้นให้ตายได้ทันที"
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ว่า รายงาน ณ วันพุธที่ 1 เม.ย. ยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโควิด-19 ในฟิลิปปินส์อยู่ที่ 2,311 ราย
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศผ่อนปรนข้อกำหนดในการสำรองเงินทุนชั่วคราวให้กับธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐ โดยหวังที่จะให้ธนาคารเหล่านี้เพิ่มการปล่อยกู้ให้กับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
เฟดระบุในแถลงการณ์ที่มีการเผยแพร่ในวันพุธตามเวลาสหรัฐว่า "เพื่อลดภาวะตึงตัวในตลาดพันธบัตรที่เป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเพิ่มขีดความสามารถของธนาคารในการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ คณะกรรมการเฟดจึงได้ประกาศให้มีการเปลี่ยนแปลงกฏเกณฑ์การสำรองเงินทุนต่อสินทรัพย์ (supplementary leverage ratio) เป็นการชั่วคราว"
ทั้งนี้ ภายใต้กฎเกณฑ์ดังกล่าวนั้น ธนาคารขนาดใหญ่ที่มีสินทรัพย์รวมมากกว่า 2.50 แสนล้านดอลลาร์จะต้องสำรองเงินทุนอย่างน้อย 3% ของสินทรัพย์ทั้งหมดเพื่อรองรับการขาดทุน