ผลการจัดอันดับหนังสือเดินทางทรงอิทธิพล Henley Passport Index เผยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงต่อการเดินทางทั่วโลก จนหนังสือเดินทางทรงอิทธิพลกลายเป็นสิ่งที่ไร้ความหมายไปชั่วคราว
Dr. Parag Khanna ผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการของ FutureMap กล่าวว่า ผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อสาธารณสุข เศรษฐกิจโลก และพฤติกรรมทางสังคม อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในด้านภูมิศาสตร์มนุษย์ "เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ผู้คนจะเริ่มหาทางย้ายจากพื้นที่ "โซนสีแดง" ที่มีการเตรียมพร้อมและการบริหารจัดการแย่ ไปสู่พื้นที่ "โซนสีเขียว" หรือประเทศที่มีบริการทางการแพทย์ดีกว่า"
"ทันทีที่มาตรการกักตัวถูกยกเลิก และราคาตั๋วเครื่องบินดิ่งเหว ผู้คนจำนวนมากทั่วโลกจะเก็บข้าวของและตีตั๋วย้ายไปยังประเทศที่พอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้" Dr. Parag กล่าว
ขณะเดียวกัน ผู้คนอาจย้ายไปยังประเทศที่มาตรการบังคับกักตัวสร้างความลำบากน้อยกว่า เผื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต สำหรับในสหรัฐอเมริกา การย้ายถิ่นทั้งในประเทศและระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ก่อนการระบาดใหญ่ โดยคนกลุ่ม Gen X และกลุ่มมิลเลนเนียลย้ายไปยังเมืองรองที่มีค่าครองชีพถูกกว่าในพื้นที่ที่เรียกว่า Sun Belt หรือย้ายไปต่างประเทศในละตินอเมริกาและเอเชียเพื่อให้พอดำรงชีวิตได้
นอกจากนี้ ผลการจัดอันดับยังชี้ด้วยว่า หนังสือเดินทางของญี่ปุ่นยังทรงอิทธิพลที่สุดในโลก โดยผู้ถือหนังสือเดินทางญี่ปุ่นสามารถเดินทางเข้า 191 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า แต่ในความเป็นจริงแล้ว มาตรการจำกัดการเดินทางที่เข้มงวดทำให้พลเมืองญี่ปุ่นถูกห้ามเดินทางโดยไม่จำเป็น และแทบทุกประเทศก็เป็นเช่นนี้ เนื่องจากมีการออกประกาศห้ามเดินทางมากขึ้นทุกวัน ขณะที่รัฐบาลทั่วโลกก็บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
Dr. Christian H. Kaelin ประธานของ Henley & Partners กล่าวว่า "ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าเสรีภาพในการเดินทางขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา"
ขณะเดียวกัน Ugur Altundal และ Omer Zarpli นักวิจัยด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซีราคิวส์และมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก เตือนว่า "คุณภาพและระดับความมั่นคงด้านสุขภาพของประเทศอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณายกเว้นการขอวีซ่าในอนาคต"