นักวิจารณ์ชี้ญี่ปุ่นอยู่ในสถานการณ์ที่สำคัญในการฝ่าฟันวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) หลังจากที่นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 เดือนในโตเกียว โอซากา และอีก 5 จังหวัด ซึ่งจะเปิดทางให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถเรียกร้องให้ประชาชนอยู่บ้าน และจำกัดการเรียนการสอน และลดกิจกรรมในสถานที่อื่นๆ
อย่างไรก็ดี นักวิจารณ์บางส่วนมองว่า การรับมือของทางญี่ปุ่นนั้น ล่าช้าและดำเนินการน้อยเกินไป โดยการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังจากที่นานาประเทศได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ในเมืองสำคัญ ๆ ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจีน อินเดีย ไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
นอกจากนี้ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของญี่ปุ่นยังให้อำนาจแก่หน่วยงานที่ดูแลในระดับท้องถิ่นน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ โดยทางการญี่ปุ่นไม่สามารถลงโทษผู้ที่ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำร้องขอของผู้ว่าการฯในเรื่องของการอยู่บ้านหรือการปิดร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งเท่ากับว่า ประสิทธิผลของการประกาศจึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน
เมื่อวานนี้ คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้อนุมัติให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 108 ล้านล้านเยน (เกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นการอนุมัติงบประมาณในวงเงินมากสุดเท่าที่เคยดำเนินมา เพื่อช่วยเหลือภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ในการต่อสู้กับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)