ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์รายงานว่า ขณะนี้ยอดรวมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 2,000,984 ราย และมีผู้เสียชีวิต 128,071 ราย
การที่ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกทะลุ 2,000,000 รายในรายงานล่าสุดนี้ บ่งชี้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ทั่วโลกได้เพิ่มขึ้น 1,000,000 รายภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ หลังจากมีการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกแตะระดับ 1,000,000 รายเมื่อวันที่ 2 เม.ย.
สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อจำนวน 609,685 ราย และมีผู้เสียชีวิต 26,059 ราย
-- นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีนซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ จะร่วงลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยคาดว่าจะหดตัวลง 6% ในไตรมาส 1/2563 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้จีนต้องปิดโรงงาน ร้านค้า และโรงเรียนทั่วประเทศ โดยคาดว่าในกรณีที่เลวร้ายที่สุด เศรษฐกิจจีนอาจหดตัวลงถึง 11%
-- พรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลีของนายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กวาดคะแนนเสียงในศึกเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่อย่างถล่มทลาย ซึ่งให้เห็นว่า หากผู้นำมีความเข้มแข็งในการรับมือกับโรคระบาด ก็อาจจะได้รับคะแนนนิยมจากประชาชน
-- กลุ่มประเทศ G20 ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลกเพื่อปกป้องเศรษฐกิจจากผลกระทบของเชื้อไวรัสโควิด-19
นายโมฮัมเหม็ด อัล-จาดาน รัฐมนตรีคลังของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประธาน G20 ในปีนี้ กล่าวว่า การอัดฉีดเงินดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องการจ้างงาน, ภาคธุรกิจ รวมทั้งระบบเศรษฐกิจ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
-- นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวแสดงความเสียใจต่อการที่สหรัฐประกาศระงับการให้เงินทุนสนับสนุน WHO
นายแพทย์ทีโดรสกล่าวว่า WHO กำลังประเมินผลกระทบจากการขาดเงินสนับสนุนจากทางสหรัฐ และจะหารือกับสมาชิกชาติต่างๆเพื่อให้มีการเพิ่มเงินสนับสนุนเพื่อชดเชยเงินช่วยเหลือที่ขาดหายไปจากสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ WHO สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐดิ่งลง 5.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2489 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ.
การปรับตัวลงของการผลิตภาคอุตสาหกรรมมีสาเหตุจากการที่ห่วงโซ่อุปทานได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
-- บริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ iPhone SE รุ่นที่ 2 ในวันพุธ (15 เม.ย.) ซึ่งมีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น และมีอายุการใช้งานของแบตเตอรีนานขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นแรก
แอปเปิลจะวางตลาด iPhone SE รุ่นใหม่ ซึ่งมีขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว ในวันที่ 24 เม.ย.นี้ในประเทศต่างๆ อาทิ ญี่ปุ่นและสหรัฐ และจะเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในวันศุกร์นี้ ด้วยราคาเริ่มต้น 399 ดอลลาร์
ทั้งนี้ iPhone SE รุ่นใหม่นี้เป็นการปรับปรุง iPhone SE เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมี.ค. 2559 โดยใช้ชิปความเร็วสูงสุดตัวเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 11 และ iPhone 11 Pro เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในการถ่ายภาพ, เล่นเกม, ดูวิดีโอ และใช้งานแอปพลิเคชันอื่นๆ
สำหรับตัวเครื่องรุ่นใหม่จะมี 3 สีให้เลือกได้แก่ ดำ, ขาว และแดง ซึ่งแอปเปิลระบุว่าสามารถกันน้ำและกันฝุ่นได้ด้วย
นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีปุ่มโฮม และมีฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นแบบ 2 ซิม แต่ไม่มีเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ จีนเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค. เยอรมนีเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. อียูเตรียมเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมี.ค. รวมถึงดัชนีการผลิตเดือนเม.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนมี.ค. จีนเตรียมเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2563, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค., ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนมี.ค. ญี่ปุ่นจะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. อียูจะรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ส่วนสหรัฐจะรายงานดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค.จาก Conference Board