สื่อต่างประเทศหลายแห่งซึ่งรวมถึงสำนักข่าว CNN และ CNBC รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เปิดเผยแนวทางใหม่ซึ่งจะกำหนดเงื่อนไขในการเริ่มผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในรัฐที่มีรายงานการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชะลอตัวลง หลังจากที่รัฐต่างๆ ทั่วสหรัฐได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า "เมื่อพิจารณาจากข้อมูลล่าสุดแล้ว ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้ตกลงร่วมกันว่า เราจะเริ่มรุกเข้าสู่แนวหน้าของยุทธศาสตร์ในครั้งนี้ ซึ่งเราเรียกว่า 'Opening Up America Again' อย่างไรก็ดี สหรัฐจะยังไม่เปิดเศรษฐกิจพร้อมกันทั้งหมดทุกรัฐภายในคราวเดียว โดยจะดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนด้วยความระมัดระวัง"
แผน "Opening Up America Again" ซึ่งมีความยาว 18 หน้าระบุว่า หลายพื้นที่ในสหรัฐมีความจำเป็นต้องให้พนักงานเริ่มกลับเข้าทำงาน แต่ผู้ว่าการของแต่ละรัฐ จะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการยกเลิกมาตรการที่เข้มงวด
ทั้งนี้ แผนดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ และจะนำไปใช้กับรัฐและภูมิภาคต่างๆ ที่อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ซึ่งรวมถึง การมีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ชะลอตัวลงเป็นเวลา 14 วัน และมีโครงการตรวจไวรัสให้กับบุคลากรด้านสาธารณสุขด้วย
สำหรับในระยะที่ 1 นั้น กำหนดว่าโรงเรียนและสถานรับเลี้ยงเด็กจะยังคงปิดทำการ และบริษัทต่างๆ จะยังคงสนับสนุนให้พนักงานทำงานทางไกล ส่วนสถานที่ขนาดใหญ่ เช่น สถานที่ให้บริการนั่งทางอาหาร, โรงภาพยนตร์ และโรงยิม จะต้องดำเนินการภายใต้กฎการเว้นระยะห่างทางกายภาพที่เข้มงวด แต่สถานที่จำพวกบาร์จะยังคงปิดให้บริการ
ส่วนในระยะที่ 2 ซึ่งรัฐและภูมิภาคต่างๆ จะเข้าสู่ระยะนี้ได้ก็ต่อเมื่อมีอัตราการติดเชื้อในรอบ 14 วันลดลงเป็นครั้งที่ 2 นั้น จะอนุญาตให้ประชาชนสามารถเดินทางในกรณีที่ไม่จำเป็นได้ ขณะที่โรงเรียนและสถานรับเลี้ยงเด็กก็สามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้ง ส่วนสถานที่จำพวกบาร์ อาจเปิดดำเนินการได้โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ
และในระยะที่ 3 ซึ่งรัฐและภูมิภาคต่างๆ ที่จะเข้าสู่ระยะนี้ได้หลังจากได้รับการยืนยันว่าไม่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกนั้น จะอนุญาตให้ประชาชนสามารถเริ่มกลับเข้าทำงานในสถานที่ทำงานต่างๆ ได้
อย่างไรก็ดี แผนการดังกล่าวยังไม่ได้ระบุวันเวลาที่ชัดเจนว่าจะสามารถเปิดเศรษฐกิจสหรัฐได้อีกครั้งเมื่อใด แม้ปธน.ทรัมป์เปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า บางรัฐอาจสามารถเปิดเศรษฐกิจได้ก่อนเดือนพ.ค.นี้ก็ตาม