ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 704.81 จุด หรือ 2.99% เมื่อวันศุกร์ (17 เม.ย.) และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวการพัฒนายารักษาโรคโควิด-19 และการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแนวทางสำหรับการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้ง หลังจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรัฐต่างๆ ของสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง
-- นักลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียจับตาธนาคารกลางจีนเตรียมประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี และประเภท 5 ปีในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อประเมินแนวทางการใช้นโยบายการเงินของจีน หลังจากเศรษฐกิจภายในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ส่วนเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปี เอาไว้ที่ระดับ 4.05% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ที่ระดับ 4.75%
-- ข้อมูลจาก worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 2,406,240 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 165,004 ราย
ทั้งนี้ สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (764,303) รองลงมาคือสเปน (198,674), อิตาลี (178,972), ฝรั่งเศส (152,894), เยอรมนี (145,742) และสหราชอาณาจักร (120,067)
นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (40,548) ตามมาด้วยอิตาลี (23,660), สเปน (20,453), ฝรั่งเศส (19,718) และสหราชอาณาจักร (16,060)
-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนมี.ค.ร่วงลง 11.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการสินค้าของญี่ปุ่นในตลาดต่างประเทศลดลงอย่างมาก อันเนื่องมาจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลก
ส่วนยอดนำเข้าในเดือนมี.ค.ลดลง 5% ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าในเดือนมี.ค.ที่ระดับ 4.9 พันล้านเยน หรือประมาณ 45.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
-- เกิดเหตุคนร้ายใช้ปืนกราดยิงประชาชนในรัฐโนวาสโกเชีย ทางตอนเหนือของแคนาดา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย
รายงานระบุว่า คนร้ายรายนี้เป็นชายวัย 51 ปี ชื่อนายกาเบรียล เวิร์ทแมน ได้ปลอมตัวด้วยการแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะก่อเหตุกราดยิงในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น อย่างไรก็ดี คนร้ายได้ถูกล้อมจับในสถานทีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในเขตเอนฟิลด์ของรัฐโนวาสโกเชีย และได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต
-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ประเทศต่างๆ ทั่วโลกดำเนินมาตรการด้านการคลังและการอัดฉีดสภาพคล่อง คิดเป็นมูลค่ารวมเกือบ 14 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะลดผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายลีเซตจา กันยาโก ประธานคณะกรรมการจัดการกองทุนการเงิน (IMFC) ของ IMF เปิดเผยในการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ว่า "จากการติดตามนโยบายของประเทศต่างๆ พบว่า มาตรการด้านการคลังในการรับมือกับโควิด-19 ทั่วโลกจนถึงขณะนี้ มีมูลค่าราว 8 ล้านล้านดอลลาร์ และการอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก มีมูลค่ารวมกันกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว"
อย่างไรก็ตาม นายกันยาโกระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยน และแรงกดดันด้านสภาพคล่อง ยังคงเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่ทำให้ประชาคมโลกยังไม่สามารถประกาศชัยชนะในการรับมือกับผลกระทบหรือแนวโน้มทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 ได้
-- นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) เรียกร้องให้ทุกคนร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และสร้างโลกที่ยุติธรรมกว่าเดิม
นายกูเตอร์เรสกล่าวว่า "เราจะเอาชนะโควิด-19 ด้วยกัน และสร้างโลกที่ยุติธรรมกว่าเดิม ในฐานะพลเมืองโลกที่สามัคคีกันและประเทศที่เป็นหนึ่ง"
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นผ่านทางข้อความวิดีโอในงานคอนเสิร์ต "วันเวิลด์: ทูเกเตอร์ แอต โฮม" (One World: Together At Home) ซึ่งจัดโดยโกลบอล ซิตี้เซน ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือสังคมสากล
-- ผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนจีน (TCM) ของจีนเปิดเผยว่า แพทย์แผนจีนมีบทบาทสำคัญ และไม่มีสิ่งใดจะมาทดแทนได้ในการรักษาโรคติดเชื้อไวรัส หากพิจารณาจากประสบการณ์ที่ได้รับจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
นายหวัง เหว่ย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนแห่งปักกิ่งแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ (17 เม.ย.) ว่า แพทย์แผนจีนมีจุดเด่นในการรับมือกับโรคใหม่ที่ยังไม่รู้จักดี โดยสามารถวิเคราะห์การดำเนินโรคจากอาการ ระยะเวลาเกิดโรค ภูมิภาค ฤดูกาล และปัจจัยอื่นๆ
นอกจากนี้ แพทย์แผนจีนยังช่วยให้การวางแผนการรักษาเพื่อใช้งานทางคลินิกเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับดำเนินการรักษาโดยอ้างอิงการจำแนกกลุ่มอาการของโรค (syndrome differentiation) ตามหลักการของแพทย์แผนจีน
-- นายแอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) และเจ้าหน้าที่คนสำคัญของทำเนียบขาวได้ออกมาปฏิเสธทฤษฎีสมคบคิดที่อ้างว่า มีการสร้างเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ของจีน
"คณะนักไวรัสวิทยาด้านวิวัฒนาการผู้ทรงคุณวุฒิได้ศึกษาลำดับพันธุกรรมในค้างคาวพบว่า การกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นจนถึงจุดนี้ สอดคล้องกับหลักการข้ามสายพันธุ์จากสัตว์สู่คนทุกประการ" นายเฟาซีกล่าวระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว หลังจากที่นักการเมืองและสื่อบางสำนักในสหรัฐชูประเด็นทฤษฎีสมคบคิดที่ว่า ไวรัสโควิด-19 หลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการแห่งหนึ่งในจีน แม้ไม่มีหลักฐานชัดเจนสนับสนุนก็ตาม
ก่อนหน้านี้คณะนักวิจัยระบุในบทความด้านการศึกษาในวารสารเนเจอร์ เมดิซีน (Nature Medicine) เมื่อเดือนมี.ค.ว่า "พวกเขาไม่เชื่อว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นในห้องปฏิบัติการ"
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยอียูเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.พ. และสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมี.ค.จากเฟดชิคาโก
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุม, อังกฤษเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.พ., สถาบัน ZEW เปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ของอียูและเยอรมนี ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค.