เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P) เตือนว่า การว่างงานในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก อาจเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และงานบางประเภทอาจจะยังไม่สามารถกลับมาปฏิบัติได้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
นายฌอน โร้ช หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกของ S&P ระบุในรายงานในวันจันทร์ (20 เม.ย.) ว่า อัตราการว่างงานทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อาจเพิ่มขึ้นมากกว่า 3% ซึ่งคิดเป็น 2 เท่าของอัตราในภาวะเศรษฐกิจถดถอยเฉลี่ย
S&P ระบุว่า อุตสาหกรรมบริการเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ แต่ก็เป็นธุรกิจที่มีการสร้างงานใหม่ด้วยในประเทศต่างๆ อาทิ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
นายโร้ชกล่าวว่า ตำแหน่งงานเป็นส่วนสำคัญของวิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งมาตรการล็อกดาวน์เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น กำลังส่งผลกระทบต่อภาคบริการที่เป็นภาคส่วนสำคัญของการสร้างงานในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
S&P คาดการณ์ผลกระทบด้านการว่างงานในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยอิงกับคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ลดลงราว 7.5% โดยคาดว่าอัตราการว่างงานจะแตะระดับสูงสุดในประมาณ 4 ไตรมาส หลังจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลง โดยออสเตรเลียจะมีอัตราการว่างงาน มากกว่า 3%, ญี่ปุ่น มากกว่า 2%, เกาหลีใต้ มากกว่า 4%, นิวซีแลนด์ ราว 3% และไทย ต่ำกว่า 1%
S&P ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากการที่ภาคบริการได้รับผลกระทบจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ก็มีความเป็นไปได้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิกที่ลดลงทุกๆ เปอร์เซนต์ ก็จะทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าในวัฎจักรเศรษฐกิจที่ผ่านๆ มา
ในบรรดา 9 ประเทศขนาดใหญ่ของเอเชีย-แปซิฟิกนั้น S&P คาดว่า อัตราการว่างงานโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นมากที่สุดในออสเตรเลีย, ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ โดยวิเคราะห์จากข้อมูลทางการของประเทศเหล่านี้ย้อนหลังไปจนถึงปี 2523