นายริชาร์ด แฮตเชตต์ ซีอีโอของหน่วยงานที่มีชื่อว่า Coalition for Epidemic Preparedness Innovations หรือ CEPI คาดการณ์ว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด19 อาจมีการผลิตจริงอย่างเร็วภายในปลายปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่เคยคาดไว้ว่าจะใช้เวลาประมาณ 12-18 เดือน โดยตั้งใจว่าจะนำวัคซีนไปให้บุคลากรกลุ่มเสี่ยงก่อน เช่น บุคลากรทางการแพทย์
ซีอีโอของ CEPI เปิดเผยว่า วัคซีนที่ได้รับการสนับสนุนจาก CEPI หลายตัวอาจเข้าสู่การทดลองเฟสสองอย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อนนี้ และหากผลการทดลองพบว่าปลอดภัยและได้ผลแล้ว วัคซีนล็อตแรกก็น่าจะผลิตได้ภายในปีนี้ โดยคาดว่าจะเป็นการใช้ในกรณีฉุกเฉินก่อน
ผู้นำ CEPI ระบุว่า สาเหตุที่คาดว่าจะผลิตวัคซีนได้เร็วขึ้นนั้น เป็นเพราะบริษัทต่าง ๆ มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด รวมทั้งทำการทดลองวัคซีนในมนุษย์ค่อนข้างเร็ว ประกอบกับปัจจัยอื่น ๆ
ทั้งนี้ CEPI เป็นองค์กรระดับสากลที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2559 โดยมีจุดประสงค์หนึ่งเดียวในการเร่งพัฒนาวัคซีนใหม่ ๆ เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ปัจจุบัน CEPI ให้เงินสนับสนุนโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 รวมกัน 9 โครงการ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งทะลุ 3,000,000 ราย
ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า ขณะนี้ยอดรวมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 3,002,303 ราย และมีผู้เสียชีวิต 208,131 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจาก 2,000,000 ราย สู่ 3,000,000 รายภายในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ จากวันที่ 15 เม.ย.-27 เม.ย. ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจาก 1,000,000 ราย สู่ 2,000,000 รายภายในเวลาราว 2 สัปดาห์ จากวันที่ 2 เม.ย.-15 เม.ย.
สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อจำนวน 978,680 ราย และมีผู้เสียชีวิต 55,118 ราย