World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 29 เมษายน 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 29, 2020 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 32.23 จุด หรือ 0.13% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ก่อนที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงอัลฟาเบท เฟซบุ๊ก และไมโครซอฟท์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของสหรัฐ และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

-- นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธที่ 29 เม.ย.ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 30 เม.ย.ตามเวลาไทย โดยคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25%

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังรอดูถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงิน

-- บริษัทอัลฟาเบท อิงค์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล เปิดเผยว่า รายได้ไตรมาส 1/2563 เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับเกือบ 4.12 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 4.03 หมื่นล้านดอลลาร์

ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 6.84 พันล้านดอลลาร์ หรือ 9.87 ดอลลาร์/หุ้น เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระดับ 6.66 พันล้านดอลลาร์ หรือ 9.50 ดอลลาร์/หุ้น ในไตรมาส 1/2562

นางรูธ โพแรต ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินของอัลฟาเบทและกูเกิลระบุว่า "ธุรกิจของเรา ซึ่งนำโดย Search, YouTube และ Cloud ได้หนุนรายได้ของอัลฟาเบท แตะระดับเกือบ 4.12 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อน หรือ 15% เมื่อพิจารณาจากค่าเงินที่คงที่"

-- นักลงทุนรอดูผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ๆ ในสัปดาห์นี้ โดยเฟซบุ๊ก และไมโครซอฟท์ จะเปิดเผยผลประกอบการในวันพุธ ส่วนแอปเปิล และอเมซอนดอทคอม จะเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดี

-- นายโตชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นเตรียมจัดส่งยา Avigan หรือรู้จักกันในชื่อว่า Favipiravir ซึ่งเป็นยารักษาโรคไข้หวัดใหญ่ ให้กับ 38 ประเทศโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายภายในสัปดาห์นี้ เพื่อใช้ในการทดลองรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19

นายโมเตกิกล่าวว่า 38 ประเทศที่จะได้รับยาดังกล่าว รวมถึง บัลแกเรีย, สาธารณรัฐเช็ก, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, อิหร่าน, เมียนมา, ซาอุดีอาระเบีย และตุรกี พร้อมกับมีอีกกว่า 30 ประเทศที่แสดงความสนใจที่จะขอรับยาดังกล่าว

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐจะสามารถตรวจเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนได้ถึง 5 ล้านคนต่อวันเร็ว ๆ นี้ แม้ในปัจจุบันสหรัฐจะขาดแคลนชุดตรวจในหลายรัฐก็ตาม

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์บางกลุ่มกล่าวว่า สหรัฐจะต้องเร่งตรวจประชาชนให้ได้มากขึ้น เพื่อที่จะสามารถเปิดเศรษฐกิจได้อีกครั้ง

-- ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 86.9 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 118.8 ในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 87.9

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นถูกกดดันจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ก็ได้ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก และส่งผลให้ชาวอเมริกันตกงานจำนวนหลายล้านคน

-- ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนม.ค.

ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนม.ค. โดยราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในเมืองฟีนิกซ์ ซีแอตเติล และแทมปา

-- คณะกรรมการช่วยเหลือระหว่างประเทศ (IRC) ออกรายงานฉบับหนึ่งระบุว่า ประชากรทั่วโลกจำนวนมากถึง 1 พันล้านคนอาจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และอาจมีผู้เสียชีวิตถึง 3.2 ล้านคนใน 34 ประเทศที่มีความเสี่ยงสูง

IRC ระบุว่า ประเทศในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ได้แก่ประเทศที่อยู่ในภาวะสงคราม เช่น อัฟกานิสถานและซีเรีย รวมทั้งประเทศที่มีความยากจน แม้แต่ก่อนเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่น กรีซและเวเนซุเอลา

-- Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีการจ้างงานของเยอรมนีดิ่งลงสู่ระดับ 86.3 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 93.4 ในเดือนมี.ค.

Ifo ระบุว่า การจ้างงานในภาคการผลิต การก่อสร้าง การค้า และภาคบริการต่างทรุดตัวลงในเดือนเม.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ Ifo ยังเปิดเผยดัชนีคาดการณ์การส่งออกของภาคการผลิตว่าจะทรุดตัวลงสู่ระดับ -50.0 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ -19.0 ในเดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยอียูจะปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนเม.ย., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย., สหรัฐจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2563 (ประมาณการเบื้องต้น), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (เช้าวันที่ 30 เม.ย.)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ จีนเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนเม.ย.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เยอรมนีเตรียมเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. และอัตราว่างงานเดือนเม.ย. อียูเตรียมเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2563 (ประมาณการเบื้องต้น), อัตราว่างงานเดือนมี.ค. ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตรียมจัดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ด้านสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนมี.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ