ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ผลักดันให้มีการเร่งเปิดเศรษฐกิจในสหรัฐ หลังจากรัฐต่างๆทั่วประเทศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยปธน.ทรัมป์ยืนยันถึงความจำเป็นในการเปิดเศรษฐกิจ แม้มีรายงานคาดการณ์ว่าอาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นหากมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งรวมถึงการเว้นระยะห่างทางสังคม
ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวในวันอังคารตามเวลาสหรัฐว่า สหรัฐต้องเริ่งเปิดเศรษฐกิจ เพื่อให้ชาวอเมริกันกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้มีผู้ป่วยหรือผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นก็ตาม
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาทราบดีว่าการเปิดเศรษฐกิจอาจจะมีผลกระทบเพิ่มขึ้นตามมา แต่เมื่อประเมินจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในขณะนี้แล้ว สหรัฐจำเป็นต้องเร่งเปิดเศรษฐกิจโดยเร็ว
การผลักดันให้มีการเร่งเปิดเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์มีขึ้น แม้ว่าสถาบันชี้วัดและประเมินสุขภาพ (IHME) ในสังกัดมหาวิทยาลัยวอชิงตันของสหรัฐ ได้ออกรายงานคาดการณ์ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจทำให้ชาวสหรัฐเสียชีวิตมากถึง 134,475 รายภายในวันที่ 4 ส.ค.
รายงานของ IHME ระบุว่า ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวสูงกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ค่อนข้างมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ทางสถาบันได้นำผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายควบคุมการเคลื่อนไหวและการเว้นระยะทางสังคมไปคำนวณรวมด้วย
IHME คาดการณ์ว่า รัฐนิวยอร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ รัฐเพนซิลเวเนีย รัฐแมสซาชูเซตส์ และรัฐมิชิแกน จะเป็นรัฐที่มียอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดนับจนถึงเดือนส.ค.