Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 3,885,193 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 268,801 ราย
ทั้งนี้ สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (1,278,485) รองลงมาคือสเปน (256,855), อิตาลี (215,858), สหราชอาณาจักร (206,715), รัสเซีย (177,160), ฝรั่งเศส (174,791) และเยอรมนี (169,015)
นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (76,101) ตามมาด้วยสหราชอาณาจักร (30,615), อิตาลี (29,958), สเปน (26,070) และฝรั่งเศส (25,987)
-- ผลการศึกษาจากจีนพบว่า ในจำนวนผู้ป่วยชาวจีนที่ป่วยเป็นโรคโควิด-19 และได้รับการรักษาจนหายดีแล้วนั้น พบว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้กลับมาเป็นโรคดังกล่าวอีกครั้งเป็นสัดส่วนราว 5-15%
ผลการศึกษาระบุว่า อัตราดังกล่าวแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค และผู้ป่วยที่กลับมาเป็นโรคโควิด-19 อีกครั้งส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงอาการของโรค
-- ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ผู้ช่วยส่วนตัวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นบวก แต่ผลการตรวจปธน.ทรัมป์ และนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด
-- สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ (NIH) แถลงเมื่อคืนนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังทำงานร่วมกับบริษัทหลายแห่งในการผลิตชุดตรวจโควิด-19 ที่ง่ายต่อการใช้ และมีความแม่นยำจำนวนหลายล้านชิ้นภายในช่วงสิ้นสุดฤดูร้อนปีนี้ และจะผลิตมากขึ้นกว่านี้ ก่อนที่ฤดูไข้หวัดใหญ่ประจำปีนี้จะมาถึง
นายฟรานซิส คอลลินส์ ผู้อำนวยการ NIH กล่าวว่า ชาวอเมริกันจำเป็นที่จะได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ไม่ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง หรือหลายวันกว่าที่จะทราบผล
-- จับตาตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ คาดเปิดตลาดไร้ทิศทางก่อนที่จะทราบข้อมูลตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะร่วงลง 21.5 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 16%
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากค่าสเปรดระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีและ 10 ปีขยายกว้างขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยี โดยแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นเหล่านี้ได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐที่สูงเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่จีนเปิดเผยยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
-- ธนาคารกลางนอร์เวย์ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากเดิมที่ระดับ 0.25% เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจต่อตลาด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25%
-- ธนาคารกลางสาธารณรัฐเชคประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% สู่ระดับ 0.25% เมื่อคืนนี้ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจต่อตลาด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางจะลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50%
-- สกุลเงินเรอัลของบราซิลทรุดตัวลงกว่า 2% แตะระดับ 5.80 เทียบดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ธนาคารกลางบราซิลประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่
การดิ่งลงของเรอัลเมื่อคืนนี้ ทำให้สกุลเงินดังกล่าวร่วงลง 31% เทียบดอลลาร์นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ส่งผลให้เรอัลเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดเมื่อเทียบดอลลาร์ในปีนี้
ทั้งนี้ ธนาคารกลางบราซิลมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับ 3.75% สู่ระดับ 3.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ที่ทางธนาคารกลางได้เริ่มกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อในปี 2542
-- ราคาหุ้นของบริษัท Moderna พุ่งขึ้นกว่า 10% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ทางบริษัทได้รับการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ในการทดลองวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเฟส 2
Moderna ระบุว่า บริษัทจะเริ่มทำการทดลองวัคซีนในเฟส 2 กับอาสาสมัครจำนวน 600 รายในไม่ช้า และหวังว่าจะเริ่มทดลองในเฟส 3 ได้ในช่วงฤดูร้อนนี้ ซึ่งจะทำให้ทางบริษัทมีแนวโน้มที่จะได้รับการอนุมัติในการผลิตวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเร็วที่สุดในปีหน้า
-- รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศอนุมัติการใช้ยา remdesivir ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 เมื่อวานนี้
การประกาศดังกล่าวส่งผลให้ยา remdesivir เป็นยาตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลญี่ปุ่นในการใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศ
-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ทางกองทุนได้ให้การอนุมัติคำขอเงินกู้ฉุกเฉินวงเงินราว 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับสมาชิก 50 ประเทศ จากจำนวนทั้งหมด 189 ประเทศ เพื่อรับมือผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 3.17 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.05 ล้านราย
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานโดยรวมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 33.5 ล้านรายในช่วง 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่สหรัฐประกาศล็อกดาวน์ในรัฐต่างๆในช่วงครึ่งหลังของเดือนมี.ค.เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ถือว่าต่ำที่สุดในช่วง 7 สัปดาห์ดังกล่าว
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะร่วงลง 21.5 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 16%