นายสก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะทรุดตัวของตลาดแรงงานภายในประเทศ หลังจากชาวออสเตรเลียเกือบ 600,000 รายประสบปัญหาตกงานในเดือนเม.ย. โดยเป็นผลจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจหลายพันแห่งต้องปิดตัวลง
สำนักงานสถิติออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานในประเทศร่วงลง 594,300 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 575,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นจากระดับ 5.2% สู่ระดับ 6.2%
นายมอร์ริสันกล่าวว่า สถานการณ์ในตอนนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของออสเตรเลีย แต่ก็คาดว่าเศรษฐกิจของประเทศจะสามารถฟื้นตัวได้ในอนาคต
"ชาวออสเตรเลียเกือบ 600,000 รายต้องตกงาน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียใจต่อชาวออสเตรเลีย สมาชิกในครอบครัว และสังคมของพวกเขา นี่คือช่วงเวลาที่ยากลำบาก น่าตกใจ แม้เราจะเตรียมใจรับมันมาก่อนแล้ว" นายมอร์ริสันกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายมอร์ริสันได้ประกาศแผนการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือนก.ค. โดยจะแบ่งออกเป็น 3 เฟสด้วยกัน ซึ่งจะมีประชาชน 850,000 คนที่ได้กลับไปทำงานตามเดิมหลังสิ้นสุดเฟส 3
อย่างไรก็ตาม ผู้นำออสเตรเลียได้เน้นย้ำว่า การเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งนั้นต้องดำเนินการอย่างปลอดภัย และต้องไม่ประมาท