ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 400 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจาก Stat News ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวด้านสุขภาพของสหรัฐรายงานว่า ผลทดลองวัคซีนของบริษัท Moderna ยังไม่ชัดเจนพอที่จะประเมินประสิทธิภาพในการต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดราคาหุ้น Moderna ทรุดตัวลงกว่า 10% และยังทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของแนวโน้มการพัฒนาวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19
-- Stat News ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวด้านสุขภาพของสหรัฐ รายงานโดยอ้างความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพว่า ข้อมูลของบริษัท Moderna เกี่ยวกับการทดลองทางคลินิกขั้นต้นในการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้กับผู้เข้าร่วมทดลอง 45 รายนั้น ไม่ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญต่อการประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนดังกล่าว
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังมองว่า ข้อมูลของ Moderna อ้างอิงการตอบสนองต่อวัคซีนแค่ในเบื้องต้นเท่านั้น โดยไม่ได้ให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่า วัคซีนตัวนี้สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้นานเพียงใด
-- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.85% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.65%
ทั้งนี้ ศูนย์ระดมทุนระหว่างธนาคารแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรในสังกัดธนาคารกลางจีน จะเปิดเผยระดับอัตราดอกเบี้ย LPR ทุกวันที่ 20 ของเดือน โดยมาตรการดังกล่าวถือเป็นการปรับปรุงและปฏิรูปกลไกในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR และเป็นความพยายามล่าสุดที่จะปรับลดต้นทุนการกู้ยืมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่แท้จริง
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เข้าให้การต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับมาตรการของเฟดและของรัฐบาลในการรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ในระหว่างการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะกรรมาธิการการธนาคาร การเคหะ และชุมชนเมือง ประจำวุฒิสภาสหรัฐนั้น นายมนูชินได้กล่าวปกป้องการใช้จ่ายเงินตามกฎหมาย Coronavirus Aid, Relief and Economic Security (CARES) วงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสเพื่อเยียวยาภาคธุรกิจและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทางด้านนายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะเปิดตัวโครงการเงินกู้ดังกล่าวภายในปลายเดือนนี้ หรือต้นเดือนหน้า และหลังจากนั้นไม่นาน ก็จะมีการระบายเม็ดเงินเข้าสู่ตลาด โดยโครงการดังกล่าวจะเสนอเงินกู้อายุ 4 ปีให้แก่บริษัทที่มีพนักงานไม่เกิน 15,000 คน และมีรายได้ไม่เกิน 5 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลง 30.2% ในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 891,000 ยูนิต จากระดับ 1.276 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. โดยตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดังกล่าวแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2558 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะลดลงสู่ระดับ 927,000 ยูนิตในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านร่วงลง 29.7% ในเดือนเม.ย. ขณะที่การเริ่มต้นสร้างบ้านปรับตัวลงในทุกภูมิภาคของสหรัฐ
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติรัสเซีย (FSS) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจรัสเซียชะลอตัวสู่ระดับ 1.6% ในไตรมาสแรก และคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวในไตรมาส 2 โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจรัสเซียมีการขยายตัว 1.9% ในไตรมาสแรก หลังจากดีดตัว 2.1% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว
ธนาคารกลางรัสเซียระบุว่า เศรษฐกิจรัสเซียอาจหดตัวลง 8% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบรายปี และจะหดตัวลง 4-6% สำหรับตลอดทั้งปีนี้
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) ของอังกฤษเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหราชอาณาจักรพุ่งขึ้นแตะ 2.1 ล้านรายในเดือนเม.ย. จาก 1.2 ล้านรายในเดือนมี.ค.
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 856,500 รายจากเดือนมี.ค. หรือคิดเป็น 70% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในปี 2514 ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการเดือนเม.ย. นับเป็นสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2539
ตัวเลขดังกล่าวตอกย้ำให้เห็นถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีต่อเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร แม้รัฐบาลได้ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือแล้วก็ตาม
-- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 51.0 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 28.2 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 32.0
การดีดตัวของดัชนีความเชื่อมั่นได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนผ่อนคลายความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจเยอรมนี ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ร่วงลงสู่ระดับ -93.5 จากระดับ -91.5 ในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -88.0
-- สื่อต่างประเทศรายงานว่า บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ประกาศยุติการขายแป้งเด็กในสหรัฐและแคนาดา เนื่องจากยอดขายลดลงอย่างมาก ท่ามกลางคดีฟ้องร้องหลายหมื่นคดีที่กล่าวหาว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวของบริษัทมีสารก่อมะเร็ง
อย่างไรก็ตาม J&J ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสินค้าด้านการดูแลสุขภาพรายใหญ่ที่สุดของโลกเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (19 พ.ค.) ว่า บริษัทจะยังคงจำหน่ายแป้งฝุ่นทาตัวดังกล่าวภายนอกสหรัฐและแคนาดาต่อไป
J&J ระบุว่า ความต้องการแป้งเด็กทาตัวของบริษัทได้ลดลงในอเมริกาเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค และเป็นผลจากข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ และการฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ J&J ได้ถูกฟ้องร้องประมาณ 19,400 คดี ซึ่งกล่าวหาว่าแป้งฝุ่นโรยตัวของบริษัทเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้เป็นมะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งเยื่อหุ้มปอด
-- นายอานีส์ บาสเวดาน ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา ประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์สำหรับกรุงจาการ์ตาออกไปอีก 14 วันจนถึงวันที่ 4 มิ.ย. หลังจากพบว่าผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น
"นี่จะเป็นการขยายเวลาล็อกดาวน์เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าพวกเราปฏิบัติตามกฎระเบียบ" นายบาสเวดานกล่าว
ทั้งนี้ กรุงจาการ์ตาถือเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในอินโดนีเซีย
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ อังกฤษจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย., อียูจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. ด้านสหรัฐจะเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และรายงานการประชุมวันที่ 28-29 เม.ย. ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) (เช้าวันที่ 21 พ.ค.)
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., ญี่ปุ่นจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนเม.ย., อังกฤษจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต/ซีไอพีเอสและดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต/ซีไอพีเอส และสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย. รวมถึงดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.จาก Conference Board