นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาสถานการณ์ระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความกังวลที่ว่า สงครามการค้าระหว่างสองประเทศอาจจะปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่า สหรัฐจะตอบโต้จีนอย่างรุนแรงหากมีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง และความตึงเครียดดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่าง 2 ประเทศ
-- ทำเนียบขาวออกมาตรการจำกัดการเดินทางจากบราซิลเข้าสู่สหรัฐ หลังจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในบราซิลพุ่งขึ้นแซงหน้ารัสเซีย ขึ้นเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดเป็นอันดับสองของโลก
"ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะปกป้องประเทศของเรา ด้วยการสั่งห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติที่อยู่ในบราซิลเป็นเวลา 14 วันเดินทางเข้าสหรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต" ทำเนียบขาวออกแถงการณ์ในวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงวันของวันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ค.ตามเวลาสหรัฐ
-- ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในบราซิลพุ่งแซงรัสเซีย ขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงสหรัฐ โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16,508 ราย ในวันเสาร์ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 347,398 ราย และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 965 ราย ดันยอดรวมแตะที่ 22,013 ราย
ทั้งนี้ สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดในโลก โดยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,666,828 ราย และเสียชีวิต 98,683 ราย ส่วนรัสเซีย ซึ่งอยู่ในอันดับ 3 มีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 335,882 ราย เสียชีวิต 3,388 ราย
-- นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวนอกรอบการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) หรือ "ฉวนกั๋วเหรินต้า" เมื่อวานนี้ว่า สหรัฐควรเลิกคิดที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศจีนให้แตกต่างไปจากที่เป็นอยู่ในประเด็นไต้หวัน พร้อมวิจารณ์ว่านักการเมืองสหรัฐบางรายกำลังจุดชนวนให้เกิดสงครามเย็นระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งจะเป็นปัจจัยบั่นทอนสันติภาพของโลก
นายหวัง อี้ เปิดเผยว่า จีนไม่มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงสหรัฐหรือเข้ามาแทนที่สหรัฐ และสหรัฐไม่ควร "ล้ำเส้น" ของจีนในประเด็นไต้หวัน โดยนักการเมืองสหรัฐบางรายมองว่าไต้หวันเป็นประเทศ ขณะที่จีนมองว่าไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของจีน
ทั้งนี้ การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) หรือ "ฉวนกั๋วเหรินต้า" เปิดฉากขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 และจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 28 พฤษภาคมนี้
-- นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน กล่าวว่า ข้อกล่าวหาที่ว่าจีนใช้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นเครื่องมือในการขยายอิทธิพลในทะเลจีนใต้นั้น เป็นเรื่องไร้สาระอย่างสิ้นเชิง
นายหวังกล่าวถ้อยคำดังกล่าวระหว่างการแถลงข่าวนอกรอบการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) หรือ "ฉวนกั๋วเหรินต้า" ซึ่งจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 28 พฤษภาคมนี้
-- สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงานว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือได้จัดการประชุมทางการทหารขึ้นเพื่อหารือกันถึงมาตรการและนโยบายปรับปรุงกองทัพเพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ
รายงานระบุว่า การประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 4 ของคณะกรรมการกลางด้านการทหารของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ (WPK) ได้มีการกำหนดนโยบายใหม่เพื่อเสริมกำลังในการป้องปรามสงครามนิวเคลียร์ และวางกลยุทธ์การป้องกันทางยุทธศาสตร์อย่างแข็งแกร่ง
รายงานระบุด้วยว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้นั่งเป็นประธานการประชุมดังกล่าวด้วยตนเอง แต่ไม่มีการระบุถึงเวลาที่จัดการประชุมอย่างแน่ชัด
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จะขึ้นบัญชีดำบริษัทและสถาบันต่างๆ ของจีนอีก 33 แห่งเพื่อลงโทษที่เป็นสายลับสอดแนมเรื่องชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ให้กับรัฐบาลจีน หรือมีความเกี่ยวข้องกับอาวุธที่มีการทำลายล้างสูง และรับใช้กองทัพจีน
ทั้งนี้ การขึ้นบัญชีดำบริษัทและสถาบันของจีนดังกล่าว นับเป็นความพยายามล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐที่จะจัดการกับบริษัทต่างๆ ซึ่งให้การสนับสนุนด้านสินค้าในกิจกรรมด้านการทหารของจีน และเพื่อลงโทษที่จีนละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์
นอกจากนี้ การสั่งขึ้นบัญชีดำดังกล่าวยังเกิดขึ้น ในขณะที่รัฐบาลจีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายใหม่ที่ระบุให้ฮ่องกงต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติโดยเร็วภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับย่อซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกง
-- สื่อต่างประเทศรายงานว่า Hertz Global Holdings Inc บริษัทให้เช่ารถยนต์ของสหรัฐซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ปีได้ยื่นขอล้มละลายเมื่อวานนี้ (22 พ.ค.) หลังธุรกิจให้เช่ารถยนต์ของบริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการเจรจากับเจ้าหนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการปรับโครงสร้างหนี้
คณะกรรมการของ Hertz ได้อนุมัติให้บริษัทยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 จากศาลล้มละลายของสหรัฐในรัฐเดลาแวร์
อย่างไรก็ตาม Hertz ระบุว่า การดำเนินงานของบริษัทในต่างประเทศ รวมถึงในยุโรป, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ไม่ได้รวมอยู่ในกระบวนการล้มละลายของบริษัทในสหรัฐ
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค. ขณะที่เยอรมนีเตรียมเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 และความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนพ.ค.จากสถาบัน Ifo
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. และเยอรมนีเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จากสถาบัน GfK ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จาก Conference Board, ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค. และดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดสาขาดัลลัส