นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลอังกฤษจะอนุญาตให้มีการเปิดร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้า ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป โดยการตัดสินใจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดทางให้ธุรกิจต่างๆเริ่มกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง
นายจอห์นสันยังระบุด้วยว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป รัฐบาลจะอนุญาตให้โชว์รูมรถยนต์ และตลาดสด กลับมาเปิดอีกครั้ง หลังจากมีรายงานว่าผู้ประกอบการของธุรกิจเหล่านี้สามารถดำเนินการตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในการควบคุมโควิด-19
ส่วนร้านค้าปลีกที่ไม่ได้จำหน่ายสินค้าที่จำเป็นนั้น อาจจะได้รับอนุญาตให้เปิดทำการอีกครั้งในวันที่ 15 มิ.ย. หากรัฐบาลได้รับรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการควบคุมโควิด-19
นายจอห์นสันยังกล่าวด้วยว่า ร้านค้าที่จำหน่ายเสื้อผ้า รองเท้า ของเล่น เฟอร์นิเจอร์ หนังสือ และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งร้านตัดเสื้อผ้า และสตูดิโอถ่ายภาพ จะได้รับอนุญาตให้เปิดทำการอีกครั้งในวันที่ 15 มิ.ย. โดยทางรัฐบาลจะให้ผู้ประกอบการมีเวลาเตรียมตัว 3 สัปดาห์
การประกาศเปิดธุรกิจบางส่วนในครั้งนี้ ถือเป็นขั้นตอนที่ 2 ของแผนการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดเศรษฐกิจ หลังจากรัฐบาลได้ประกาศผ่อนคลายขั้นตอนที่ 1 ไปแล้วเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการอนุญาตให้ประชาชนที่ไม่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ เช่นพนักงานด้านการก่อสร้างและการผลิตนั้น สามารถกลับเข้าทำงานได้ตามปกติ แต่ขอให้หลีกเลี่ยงการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ
ส่วนในขั้นตอนที่ 3 ซึ่งอาจมีการนำมาใช้อย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค.นั้น รัฐบาลอังกฤษอาจจะเริ่มอนุญาตให้เปิดธุรกิจโรงแรมบางส่วน โดยจะอยู่ภายใต้คำแนะนำของบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์ และมีการสถานที่สาธารณะ โดยจะยังคงอยู่บนเงื่อนไขของการคำนึงถึงความปลอดภัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอังกฤษพยายามผลักดันให้ภาคธุรกิจกลับมาดำเนินการอีกครั้ง หลังจากรัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนทำให้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษ หดตัวลง 2% ในไตรมาส 1 ปีนี้