นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้รายงานต่อสภาคองเกรสสหรัฐว่า ฮ่องกงไม่ได้มีความเป็นอิสระในการปกครองตนเองจากจีนอีกต่อไป พร้อมกล่าวว่า "ฮ่องกงจะได้ไม่รับการรับรองภายใต้กฎหมายของสหรัฐ ในลักษณะเดียวกับที่กฎหมายของสหรัฐเคยมีผลกับฮ่องกงก่อนเดือนก.ค. 2540"
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวของนายปอมเปโออาจกระทบต่อสถานะพิเศษของฮ่องกง ซึ่งได้รับการเอื้อประโยชน์ทางการค้ากับสหรัฐ โดยที่ผ่านมานั้น ฮ่องกงได้รับการยกเว้นภาษีต่อสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐยังคงเก็บภาษีต่อสินค้าที่จีนส่งออกไปยังสหรัฐจากการที่ทั้งสองฝ่ายทำสงครามการค้าระหว่างกัน
-- เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมลงนามในคำสั่งพิเศษเพื่อกำกับดูแลบริษัทโซเชียลมีเดีย หลังก่อนหน้านี้ปธน.ทรัมป์ ได้ขู่ที่จะปิดแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียโดยให้เหตุผลว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง
ปธน.ทรัมป์ ระบุในทวิตเตอร์ส่วนตัวล่าสุดว่า รัฐบาลสหรัฐจะยกระดับการกำกับดูแลโซเชียลมีเดียให้เข้มงวดยิ่งขึ้น และหากแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่ปฏิบัติตามแล้วก็จะต้องถูกสั่งให้ปิดตัวลง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นโดยคาดกันว่าเป็นเพราะปธน.ทรัมป์ ไม่พอใจการกระทำของทวิตเตอร์ หลังทวิตเตอร์ได้ขึ้นแถบข้อความเตือนเกี่ยวกับข่าวปลอมหรือ "เฟคนิวส์" ใต้ทวีตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จำนวน 2 ทวีต ซึ่งถือเป็นมาตรการใหม่ของโซเชียลมีเดียชื่อดังที่ต้องการตรวจสอบ และป้องกันการแพร่กระจายข่าวปลอมหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้องต่างๆ
-- ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งทะลุ 100,000 รายแล้วเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม นายแอนโธนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติ และที่ปรึกษาด้านสุขภาพของทำเนียบขาว กล่าวว่า มีโอกาสที่สหรัฐจะได้ใช้วัคซีนภายในเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ ขณะที่ทางสถาบันได้ออกแนวปฏิบัติในการเปิดใช้อาคารสำนักงานอีกครั้ง
-- ศาลแคนาดาตัดสินให้ทางการสหรัฐชนะคดีที่ขอให้แคนาดาส่งตัวนางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน (CFO) ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในบ้านพักของเธอที่เมืองแวนคูเวอร์ ในข้อหาละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่าน
นักวิเคราะห์ระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและแคนาดาอย่างแน่นอน
-- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติร่างกฎหมายเรียกร้องให้คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดมาตรการลงโทษเจ้าหน้าที่จีนที่ต้องรับผิดชอบกับการกดขี่ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ของจีน
ทั้งนี้ สภาผู้แทนฯสหรัฐได้อนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 413 เสียง โดยมีผู้คัดค้านเพียง 1 เสียง และร่างกฎหมายนี้จะถูกส่งให้กับทำเนียบขาวเพื่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 0.50% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ในการประชุมวันนี้ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว หลังจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเกาหลีใต้ หดตัวลงอย่างรุนแรงในไตรมาส 1 ปีนี้ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันนี้เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยยอนฮัป อินโฟแม็กซ์ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมเดือนนี้ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 25,000 จุดเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) ขานรับความหวังที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐและประเทศอื่นๆทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากรัฐบาลเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขานรับข่าวการเปิดภาคธุรกิจในหลายประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,548.27 จุด พุ่งขึ้น 553.16 จุด หรือ +2.21% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,036.13 จุด เพิ่มขึ้น 44.36 จุด หรือ +1.48% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,412.36 จุด เพิ่มขึ้น 72.14 จุด หรือ +0.77%
-- สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองเพิ่มขึ้น 2.7% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวขึ้น แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้ จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 0.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ทะยานขึ้น 176% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 9% ในสัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 9% เช่นกัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
-- ซิตี้กรุ๊ปออกรายงานในวันนี้ ระบุว่า ราคาทองมีความเสี่ยงในระยะสั้นมากขึ้นที่จะร่วงลงสู่ช่วงล่างถึงช่วงกลางของระดับ 1,600 ดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ทางบริษัทมีความเชื่อมั่นต่อทองในระยะกลาง และคาดการณ์ว่าราคาทองจะพุ่งแตะ 2,000 ดอลลาร์ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยอียูเตรียมเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2563 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย. รวมถึงสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. และยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. ส่วนญี่ปุ่นจะรายงานอัตราว่างงานเดือนเม.ย. ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. ส่วนเยอรมนีจะรายงานยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. ด้านฝรั่งเศสจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 อียูจะรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค. ปิดท้ายที่สหรัฐซึ่งจะรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน