รัฐบาลจีนได้อนุมัติให้นครเฉิงตูจัดตั้งเขตเศรษฐกิจใหม่เฉิงตูตะวันออก (Eastern Chengdu New Area) เนื่องจากเขตเศรษฐกิจแห่งนี้จะกลายเป็นพื้นที่ใหม่สำหรับการพัฒนาวงกลมเศรษฐกิจเฉิงตู-ฉงชิ่ง หรือ "Chengdu-Chongqing Economic Circle"
นครเฉิงตู ยังได้สร้าง "เกาะยูนิคอร์น" ในเขตเศรษฐกิจใหม่เทียนฝู่ทางตอนใต้ของเมือง เพื่อที่จะกระตุ้นแรงผลักดันและศักยภาพของอุตสาหกรรม บ่มเพาะและฟูมฟักองค์กรนวัตกรรมและเทคโนโลยีท้องถิ่น ตลอดจนดึงดูดบริษัทด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้มาตั้งธุรกิจในเมืองมากขึ้น
นอกจาก "เกาะยูนิคอร์น" แล้ว เฉิงตูยังได้สร้างศูนย์นวัตกรรมและธุรกิจเพื่อความร่วมมือระหว่างจีนและยุโรป (Business and Innovation Centre for China-Europe Cooperation) ที่จะก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำที่บริษัทด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทั่วโลกเลือกเข้าไปเปิดดำเนินธุรกิจ โดยปัจจุบัน มีบริษัทและองค์กรที่มีชื่อเสียงระดับโลกกว่า 50 แห่ง เช่น ศูนย์นวัตกรรม AWS Joint Innovation Center สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเกรทเทอร์ของบริษัท Opera จากนอร์เวย์ Sigfox บริษัทด้าน IoT ของฝรั่งเศส และสำนักงานใหญ่ระดับโลกประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของบริษัท Vertu จากสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ เฉิงตูกำลังใช้เขตเศรษฐกิจใหม่ หรือ "new area" ในการสร้างประโยชน์จากการเป็นประตูสู่ภาคตะวันออก เพื่อพัฒนาวงกลมเศรษฐกิจที่ครอบคลุมพื้นที่ของสองเมือง และอาจทำให้ "Chengdu-Chongqing Economic Circle" กลายเป็นอภิมหานครแห่งใหม่ของจีนในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ตลอดจนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่กระตุ้นการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนของเศรษฐกิจจีนในช่วงหลายทศวรรษข้างหน้า ในขณะที่เฉิงตูจะทำหน้าที่เป็นเครื่องยนต์หลักในการส่งพลังขับเคลื่อน