ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร่วงลงกว่า 100 จุดในช่วงเช้านี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แถลงยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐจะส่งกองกำลังทหารเข้าประจำการในเมืองต่างๆ ที่กำลังเกิดเหตุการณ์จลาจลในขณะนี้ หากผู้ว่าการรัฐ และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์รุนแรงได้
ณ เวลา 08.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ร่วงลง 105 จุด หรือ 0.41% แตะที่ 25,358 จุด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาวในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยปธน.ทรัมป์ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า คณะบริหารของรัฐบาลสหรัฐจะให้ความเป็นธรรมต่อนายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวผิวสีที่ถูกตำรวจล็อกคอจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต
-- ประธานาธิบดีโดนัดล์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาวในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยปธน.ทรัมป์ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า คณะบริหารของรัฐบาลสหรัฐจะให้ความเป็นธรรมต่อนายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวผิวสีที่ถูกตำรวจล็อกคอจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต โดยในระหว่างการแถลงข่าวครั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขายืนเคียงข้างผู้ที่ประท้วงอย่างสันติ แต่การประท้วงที่เกิดขึ้นในขณะนี้เต็มไปด้วยความรุนแรง และไม่ใช่การกระทำของผู้ที่รักสันติ
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ตำหนิรัฐบาลของรัฐต่างๆ ที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลกลางสหรัฐจึงจำเป็นต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ เพื่อยุติความรุนแรงและการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยรัฐบาลจะส่งกองกำลังทหารเข้าประจำการ หากเมืองและรัฐต่างๆไม่ดำเนินการใดๆ พร้อมระบุว่า รัฐบาลจะระดมทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อยุติการจลาจลและการปล้นสะดมที่เกิดขึ้นในขณะนี้
-- นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก และนายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กซิตี้ ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า นิวยอร์กซิตี้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์เคอร์ฟิวตั้งแต่คืนวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ เพื่อควบคุมสถานการณ์รุนแรงที่เกิดจากการประท้วง หลังจากประชาชนจำนวนมากได้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวผิวสีที่ถูกตำรวจล็อกคอจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต
แถลงการณ์ระบุว่า ช่วงเวลาเคอร์ฟิวจะเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ (10.00 น.ของวันอังคารตามเวลาไทย) จนถึงเวลา 05.00 ของวันอังคารตามเวลาสหรัฐ (16.00 น.ของวันพุธตามเวลาไทย)
-- ทำเนียบเครมลิน แถลงว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวันนี้ โดยผู้นำทั้งสองหารือกันเกี่ยวกับการประชุมสุดยอด G7 และตลาดน้ำมันโลก
"ปธน.ทรัมป์ได้แจ้งปธน.ปูตินเกี่ยวกับแนวคิดของเขาในการจัดการประชุมสุดยอด G7 โดยจะมีการเชิญผู้นำรัสเซีย เกาหลีใต้ อินเดีย และออสเตรเลีย เข้าร่วมการประชุม" แถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า เขาจะเลื่อนการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 ออกไปเป็นเดือนก.ย. จากเดิมที่มีกำหนดจัดขึ้นในช่วงเดือนมิ.ย. และเขาจะเชิญรัสเซีย เกาหลีใต้ อินเดีย และออสเตรเลีย เข้าร่วมการประชุมด้วย จากเดิมที่การประชุม G7 ประกอบด้วย สหรัฐ อิตาลี ญี่ปุ่น แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร รวมทั้งสหภาพยุโรป
-- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินลงนามในกฤษฎีกาเมื่อวานนี้ ประกาศให้การลงคะแนนแก้ไขรัฐธรรมนูญรัสเซียจัดขึ้นในวันที่ 1 ก.ค.นี้ โดยก่อนหน้านี้ การลงคะแนนดังกล่าวมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 22 เม.ย. แต่ก็ได้มีการเลื่อนออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะนั้น
หากประชาชนส่วนใหญ่ให้การรับรองการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว ก็จะส่งผลให้ปธน.ปูตินสามารถอยู่ในอำนาจต่อไปจนถึงปี 2579 ซึ่งขณะนั้น ปธน.ปูตินจะมีอายุ 83 ปี มากกว่าอดีตประธานาธิบดีเลโอนิด เบรซเนฟถึง 8 ปี โดยอดีตประธานาธิบดีเบรซเนฟเป็นผู้นำรัสเซียที่มีอายุมากที่สุดขณะเสียชีวิต
-- นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวเตือนผู้นำของโลกว่า ไม่ควรชะล่าใจ หลังมีรายงานระบุว่าไวรัสโควิด-19 เริ่มลดความรุนแรงลง
นายแพทย์ไรอันกล่าวว่า นี่ยังคงเป็นไวรัสที่ฆ่าคนตายได้ และคนหลายพันคนก็ตายเพราะไวรัสนี้ในแต่ละวัน
"เราต้องระวังตัวที่จะไม่สร้างความรู้สึกว่าไวรัสโควิด-19 ได้ลดความเป็นเชื้อโรคลง ซึ่งนี่ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด" นายแพทย์ไรอันกล่าว
-- พญ.มาเรีย แวน เคอร์โคฟ นักระบาดวิทยาของ WHO กล่าวว่า การชุมนุมประท้วงในสหรัฐ ท่ามกลางความไม่พอใจต่อการที่ตำรวจใช้ความรุนแรงต่อชายผิวสีคนหนึ่งจนเสียชีวิต อาจสร้างความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 โดยพญ.เคอร์โคฟระบุว่า การสัมผัสอย่างใกล้ชิดอาจเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ 40 เมืองทั่วสหรัฐได้ประกาศเคอร์ฟิว หลังเกิดเหตุจลาจล ทั้งการทำลายทรัพย์สินสาธารณะ การเผารถยนต์ และการทุบกระจกร้านค้า ท่ามกลางความไม่พอใจต่อการที่ตำรวจใช้ความรุนแรงต่อนายจอร์จ ฟลอยด์ ซึ่งเป็นชายผิวสี จนเสียชีวิต
-- คนงานหลายหมื่นคนได้กลับเข้าทำงานในโรงงานผลิตรถยนต์หลายแห่งตามบริเวณชายแดนทางภาคเหนือของเม็กซิโกเมื่อวานนี้ซึ่งเป็นวันแรกของการเริ่มเปิดธุรกิจที่จำเป็น
นายอาร์แมนโด คาบาดา นายกเทศมนตรีเมืองซิวดัดฆัวเรซประมาณการว่า คนงานโรงงานผลิตรถยนต์ต่างๆ ประมาณ 30% จากทั้งหมด 300,000 คนได้กลับเข้าทำงานแล้ว โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐบาลเพื่อเพิ่มการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในวันนี้ เกาหลีใต้เตรียมเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1, ธนาคารกลางออสเตรเลียประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนพ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
สำหรับวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนพ.ค., ออสเตรเลียเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2563, จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ค.จากไฉซิน, ฝรั่งเศสเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, เยอรมนีเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ค.จากมาร์กิต และอัตราว่างงานเดือนพ.ค., อียูเปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, อัตราว่างงานเดือนเม.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., อังกฤษเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ค.จากมาร์กิต/ซีไอพีเอส และสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนเม.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)