สมาคมผู้นำเข้ารถยนต์แห่งญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ยอดขายรถยนต์นำเข้าในเดือนพ.ค.ลดลง 46.4% แตะที่ 12,522 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการซื้อขายในตลาดรถยนต์ และทำให้ประชาชนต้องกักตัวอยู่บ้าน
ยอดขายรถยนต์นำเข้าของญี่ปุ่นร่วงลงอย่างหนักสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 นับตั้งแต่ทางสมาคมได้เริ่มเก็บสถิติเมื่อปี 2531 โดยในเดือนเม.ย. ยอดขายรถยนต์นำเข้าในญี่ปุ่นดิ่งลง 36.9%
ทางสมาคมเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์นำเข้าที่ลดลงในเดือนพ.ค.ของปีนี้ สวนทางกับยอดขายที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว นอกจากนี้ ยอดขายยังปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 นับตั้งแต่ต.ค. 2562 อันเป็นผลมาจากการปรับขึ้นภาษีการอุปโภคบริโภคจากระดับ 8% เป็น 10% เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ปีที่แล้ว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า โฆษกของสมาคมเปิดเผยว่า "แม้รัฐบาลจะประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินไปแล้ว แต่ยอดขายในอนาคตก็ยังไม่แน่นอน"
เมื่อแยกเป็นแบรนด์รถยนต์พบว่า ยอดขายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังครองแชมป์สูงสุดอยู่ที่ 2,694 คันในเดือนพ.ค.ปีนี้ แม้จะลดลง 40.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ตามด้วยยอดขายบีเอ็มดับเบิลยูซึ่งอยู่ที่ 1,706 คัน ร่วงลง 53.9% ยอดขายโฟล์คสวาเกนรั้งอันดับ 3 อยู่ที่ 1,605 คัน ร่วงลง 57.4% ส่วนยอดขายออดี้ แตะที่ 1,072 คัน ลดลง 45.7%