นายเอ็ดเวิร์ด เหยา รัฐมนตรีฝ่ายการพัฒนาเศรษฐกิจและพาณิชย์ของฮ่องกงกล่าวว่า เศรษฐกิจฮ่องกงจะสามารถเอาชนะความท้าทายต่างๆ และยังคงอยู่ในทิศทางของการพัฒนาอย่างยั่งยืน เนื่องจากเศรษฐกิจมีความยืดหยุ่นและมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แม้ว่ามาตรการต่างๆ ที่สหรัฐนำมาใช้กับฮ่องกงแต่เพียงฝ่ายเดียวนั้น มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางธุรกิจในระยะใกล้นี้ก็ตาม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายเหยาได้เปิดเผยในเอกสารที่ส่งให้กับสภานิติบัญญัติของฮ่องกงว่า สหรัฐได้รับประโยชน์อย่างมากจากการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการค้าร่วมกับฮ่องกง
ทั้งนี้ นายเหยาเปิดเผยว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2553 นั้น สหรัฐมียอดเกินดุลการค้ากับฮ่องกงเป็นวงเงินสูงถึง 3.10 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนในปี 2562 เพียงปีเดียวนั้น สหรัฐมียอดเกินดุลการค้ากับฮ่องกงมากกว่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาประเทศคู่ค้ารายอื่นๆ
นายเหยากล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลฮ่องกง รวมทั้งภาคส่วนอุตสาหกรรมและพาณิชย์ในท้องถิ่น ได้เพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการกระจายตลาด ซึ่งรวมถึงการมุ่งเน้นไปยังตลาดของกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในโครงการ Belt and Road
นอกจากนี้ นายเหยากล่าวว่า จากการประเมินของรัฐบาลฮ่องกงพบว่า แม้การเปลี่ยนแปลด้านนโยบาย อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในระยะสั้น แต่ผลกระทบในระยะยาวที่มีต่อการพัฒนาด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี (I&T) ของฮ่องกงนั้น จะอยู่ในขอบเขตที่ค่อนข้างจำกัด