สหประชาชาติ (UN) คาดการณ์ว่า การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะทำให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกร่วงลงหนักถึง 30-40% จนแตะระดับต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีในปีนี้ และลดลงต่อเนื่องในปีหน้า จากนั้นถึงจะเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ ในปี 2565
UN คาดการณ์ในรายงานว่า มาตรการล็อกดาวน์นั้นส่งผลให้การลงทุนชะลอตัวลง ขณะที่บริษัทข้ามชาติก็ต้องประเมินแผนธุรกิจใหม่ โดยประเทศกำลังพัฒนาจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่พึ่งพาการส่งออกรวมถึงการลงทุนด้านสินค้าโภคภัณฑ์
รายงานดังกล่าวระบุว่า ยุคหลังโควิด-19 นั้นน่าจะทำให้บริษัทต่างๆ แห่ย้ายการผลิตไประดับภูมิภาคหรือในประเทศของตนเองมากขึ้น และกระจายซัพพลายเออร์ให้หลากหลายกว่าเดิม
ส่วนเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ปีนี้ ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) เปิดเผยว่า จีนได้รับเม็ดเงิน FDI สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกในปี 2562 ด้วยมูลค่าสูงถึง 1.4 แสนล้านดอลลาร์ ตามหลังสหรัฐซึ่งมียอด FDI สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลกด้วยมูลค่า 2.51 แสนล้านดอลลาร์
UNCTAD ได้เปิดเผยรายงาน "Global Investment Trends Monitor" ซึ่งระบุว่า FDI ทั่วโลกในปี 2562 อยู่ที่ระดับ 1.39 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลง 1% จากระดับในปี 2561 ซึ่งอยู่ที่ 1.41 ล้านล้านดอลลาร์