นางกิตา โกปินาธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวแสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มหดตัวลงรุนแรงกว่าที่ IMF คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
นางโกปินาธเปิดเผยผ่านทางบล็อกว่า ในช่วงสัปดาห์แรกที่ประเทศต่างๆ ในยุโรปประกาศล็อกดาวน์นั้น IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับวิกฤตการเงินครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) โดยในขณะนั้น IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 3% ในปี 2563
ทั้งนี้ นางโกปินาธกล่าวว่า ขณะนี้ IMF มีแนวโน้มที่จะปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลงอีก แม้ประเทศต่างๆ ได้เริ่มเปิดเศรษฐกิจแล้วก็ตาม
"เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิด Great Depression ที่เศรษฐกิจทั้งในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกลุ่มตลาดเกิดใหม่จะเผชิญกับภาวะถดถอยในปี 2563 ดิฉันคาดว่า รายงาน 'World Economic Outlook Update' ประจำเดือนมิ.ย.ของ IMF อาจจะมีการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลงในระดับที่รุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้" นางโกปินาธกล่าว
การแสดงความเห็นของนางโกปินาธมีความสอดคล้องกับที่นางคริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการ IMF ได้กล่าวไว้เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ว่า IMF มีแนวโน้มอย่างมากที่จะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงอีก เนื่องจากโรคโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดทั่วโลก
ในช่วงกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา IMF คาดการณ์ในรายงาน World Economic Outlook ว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มหดตัวลงอย่างรุนแรง 3% ในปีนี้ อันเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยระบุว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลงครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในช่วงทศวรรษ 1930
ทั้งนี้ ตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในเดือนเม.ย.นั้นได้ถูกปรับลดลงมาแล้วถึง 6.3% จากเดือนม.ค.ปีนี้ โดยเป็นการปรับลดลงครั้งใหญ่ในรอบเพียง 3 เดือน