นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าอาจจะเกิดการแพร่ระบาดรอบสอง หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสหรัฐ และจีน โดยเฉพาะในกรุงปักกิ่ง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าทางรัฐบาลอาจจะใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอีกครั้ง และจะฉุดเศรษฐกิจให้ทรุดตัวลงอีก
รัฐอริโซา ฟลอริดา โอกลาโฮมา และเท็กซัส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงเป็นประวัติการณ์ในวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในรัฐเท็กซัส เนวาดา และฟลอริดา ทำสถิติสูงสุดเช่นกัน
ส่วนสถานการณ์ในจีนนั้น กรุงปักกิ่งได้กลายมาเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้กรุงปักกิ่งประกาศยกระดับเตือนภัยฉุกเฉินเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดจากระดับ 3 สู่ระดับ 2 และสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
-- นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองในสหรัฐ หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างข้อความที่ตัดตอนมาจากหนังสือของนายจอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยขอให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ช่วยซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐเพื่อให้ตนได้รับคะแนนนิยมมากพอที่จะชนะการเลือกตั้งอีกสมัย
รายงานข่าวระบุว่า หนังสือเล่มนี้จะเปิดตัวสัปดาห์หน้า โดยนายโบลตันเปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์ได้พูดคุยกับปธน.สีเรื่องขอให้ซื้อสินค้าเกษตรเพิ่มในการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นเมื่อปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี นายโบลตันไม่สามารถระบุถ้อยคำเจาะจงได้ เนื่องจากเป็นความลับทางราชการ
-- ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงเกือบ 400 จุดในช่วงเช้านี้ตามเวลาไทย โดยนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสหรัฐและจีน โดยเฉพาะในกรุงปักกิ่ง
ณ เวลา 08.50 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 393 จุด หรือ 1.51% แตะที่ 25,632 จุด
-- คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงในวันนี้ว่า ณ วันพุธที่ 17 มิ.ย. มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั่วประเทศจีน เพิ่มขึ้น 28 ราย โดยในจำนวนนี้ เป็นผู้ติดเชื้อที่พบในกรุงปักกิ่ง 21 ราย, ในมณฑลเหอเป่ย 2 ราย และในมณฑลเทียนจิน 1 ราย
ทางด้านเกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 59 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นเป็น 12,257 ราย ขณะเดียวกันเกาหลีใต้พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 280 ราย
ทั้งนี้ เกาหลีใต้ยังคงพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนจากการเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา, สถานพยาบาล, สถานที่เล่นกีฬาในร่ม, ร้านขายสินค้าสุขภาพ และศูนย์กระจายสินค้า
-- รัฐบาลไต้หวันประกาศอนุญาตให้นักธุรกิจจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำเกี่ยวกับโรคโควิด-19 สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
-- นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีต่างประเทศจีน เรียกร้องให้อินเดียดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียดต่อเหตุการณ์ปะทะกันตามพรมแดนจีนและอินเดีย และให้มีการลงโทษผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 974,000 ยูนิต หลังจากดิ่งลง 26.4% ในเดือนเม.ย. และลดลง 19.0% ในเดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
-- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวว่า แอฟริกาจะเป็นกลุ่มประเทศแรกในโลกที่จะได้รับประโยชน์ หากจีนประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 และมีการใช้อย่างแพร่หลายภายในประเทศ
-- แบบจำลองของสถาบันชี้วัดและประเมินสุขภาพ (IHME) ในสังกัดมหาวิทยาลัยวอชิงตันของสหรัฐ บ่งชี้ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจทำให้ชาวอเมริกันเสียชีวิตกว่า 200,000 รายภายในวันที่ 1 ต.ค. ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในหลายรัฐพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า การไหลเวียนของเหรียญกษาปณ์สหรัฐในธนาคารบางแห่งได้ชะลอตัวลงจนแทบหยุดนิ่ง โดยได้รับผลกระทบจากการที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่อยู่แต่ในบ้าน ขณะที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ จีนมีกำหนดการเปิดเผยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนพ.ค. ออสเตรเลียเตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ค. ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีกำหนดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนมิ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ในช่วงเช้า ญี่ปุ่นมีกำหนดเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค. และธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานการประชุม ขณะที่ในช่วงบ่าย อังกฤษมีกำหนดเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.