World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 19 มิถุนายน 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 19, 2020 08:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่สูงเกินคาด รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐและจีน อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธุรกิจสินค้าผู้บริโภค

-- นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่าไวรัสอาจกลับมาแพร่ระบาดรอบสอง หลังพบผู้ติดเชื้อในสหรัฐและจีนเพิ่มขึ้น

หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า 9 รัฐในสหรัฐซึ่งได้แก่ แอละแบมา แอริโซนา ฟลอริดา เนวาดา นอร์ทแคโรไลนา โอกลาโฮมา โอเรกอน เซาท์แคโรไลนา และเท็กซัส มียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 วัน ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า สหรัฐอาจเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่

ส่วนที่จีนนั้น มีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกรุงปักกิ่ง ซึ่งทำให้กรุงปักกิ่งประกาศยกระดับเตือนภัยฉุกเฉินจากระดับ 3 สู่ระดับ 2 อีกทั้งสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่ง และล่าสุดกรุงปักกิ่งได้ประกาศมาตรการควบคุมการเดินทางของคนกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ที่เคยไปเยือนตลาดค้าส่งซินฟาตี้

-- จับตาตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ คาดปรับตัวลดลงตามดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในจีนและสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้มีการล็อกดาวน์อีกครั้ง และจะถ่วงกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อไป

-- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดย BoE มีมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.10%

นอกจากนี้ BoE ยังประกาศขยายวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 1 แสนล้านปอนด์ สู่ระดับ 7.45 แสนล้านปอนด์ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

-- ธนาคารกลางไต้หวันประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันนี้ที่ระดับ 1.125% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.125% สู่ระดับ 1.0% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ ธนาคารกลางไต้หวันระบุว่า เศรษฐกิจไต้หวันได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แล้ว และเศรษฐกิจจะมีการขยายตัวในครึ่งปีหลัง

-- ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้ และส่งสัญญาณว่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

ทั้งนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) ระยะเวลา 7 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยปรับลดลง 0.25% สู่ระดับ 4.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2561

นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์

-- ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ประกาศคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเมื่อวานนี้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ SNB ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.75% ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่ง

นอกจากนี้ SNB ระบุว่า ทางธนาคารจะยังคงใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ พร้อมกับเข้าแทรกแซงในตลาดปริวรรตเงินตรา เพื่อให้เศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์สามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอย

-- นายหวู่ ซุนหยู หัวหน้านักระบาดวิทยาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน กล่าวว่า จีนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกรุงปักกิ่งแล้ว

"การแพร่ระบาดในกรุงปักกิ่งได้อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว และเมื่อผมบอกว่าอยู่ภายใต้การควบคุม สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะเป็นศูนย์ในวันพรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ โดยแนวโน้มการติดเชื้อจะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง แต่จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลง เหมือนกับแนวโน้มที่เราเห็นในกรุงปักกิ่งในเดือนม.ค.และก.พ." นายหวู่กล่าว

นายหวู่กล่าวว่า อาจมีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วงหลายวันข้างหน้า แต่จะไม่ถือเป็นการแพร่เชื้อครั้งใหม่ แต่เป็นผู้ติดเชื้อที่ถูกตรวจพบในกระบวนการตรวจสอบที่ผ่านมา

-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 8,467,178 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 451,954 ราย

สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (2,234,986) รองลงมาคือบราซิล (960,309), รัสเซีย (561,091), อินเดีย (368,705), สหราชอาณาจักร (299,251) และสเปน (291,763)

นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (119,943) ตามมาด้วยบราซิล (46,665), สหราชอาณาจักร (42,153), อิตาลี (34,448) และฝรั่งเศส (29,575)

-- อินโดนีเซียเปิดเผยข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า ขณะนี้ อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 1,331 รายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมรวม 42,762 ราย

ขณะนี้ การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ลุกลามไปทั้ง 34 จังหวัดของอินโดนีเซีย

นอกจากนี้ ผู้เสียชีวิตรายใหม่จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 63 ราย ส่งผลให้ขณะนี้อินโดนีเซียมีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมรวม 2,339 ราย

-- ทำเนียบประธานาธิบดีคาซัคสถานเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า นายนูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ ประธานาธิบดีคาซัคสถาน มีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก และขณะนี้นายนาซาร์บาเยฟกำลังอยู่ในระหว่างการกักตัว

อย่างไรก็ดี นายนาซาร์บาเยฟยังคงทำงานตามปกติ แม้ว่าอยู่ในช่วงการกักตัว

-- กรมศุลกากรของจีนแถลงในวันนี้ว่า จีนได้ระงับการนำเข้าเนื้อหมูจากบริษัท Toennies Group ของเยอรมนี หลังจากพบว่าคนงานกว่า 600 คนได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าว ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวานนี้ จะทำให้บริษัทดังกล่าวไม่สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มาจากโรงฆ่าสัตว์ และห้องเย็นของบริษัท

ทางด้านบริษัท Toennies Group ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเนื้อของเยอรมนี เปิดเผยวานนี้ว่า คนงานอย่างน้อย 657 คนที่โรงงานบรรจุเนื้อของบริษัทมีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวกนับตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.5 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.3 ล้านราย

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 13 แม้ว่ารัฐต่างๆ ได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และได้เปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่

อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเมื่อคืนนี้ ต่ำกว่าที่มีการรายงานในสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับ 1.566 ล้านราย โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.9 ล้านรายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 มี.ค.

Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ดีดตัวขึ้น 2.8% สู่ระดับ 99.8 ในเดือนพ.ค. หลังจากดิ่งลง 6.1% ในเดือนเม.ย. และร่วงลง 7.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงหนักที่สุดในรอบ 60 ปีที่มีการรายงานตัวเลขดังกล่าว

Conference Board ระบุว่า การฟื้นตัวของดัชนี LEI ในเดือนพ.ค. สะท้อนถึงการเปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่ หลังจากที่กิจกรรมในภาคธุรกิจ หยุดชะงักลงจากการที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ