นายหวัง เสี่ยวหลง ผู้อำนวยการทั่วไปแผนกกิจการเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สังกัดกระทรวงกิจการต่างประเทศของจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า โครงการต่างๆ ราว 20% ภายใต้ยุทธศาสตร์ Belt and Road Initiative หรือ BRI ของจีนที่เชื่อมโยงเอเชีย, ยุโรป และแอฟริกา ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายหวังเปิดเผยในการแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งว่า จากผลสำรวจของกระทรวงฯ พบว่า โครงการ BRI ราว 40% ได้รับผลกระทบในเชิงลบเล็กน้อย และอีก 30-40% ได้รับผลกระทบบางส่วน
"ขณะที่ประมาณ 20% ของโครงการ BRI ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง" นายหวังกล่าว โดยไม่ได้ให้รายละเอียด
อย่างไรนายหวังกล่าวเสริมว่า ผลการสำรวจออกมาดีกว่าคาด และแม้ว่าบางโครงการได้ระงับการดำเนินงาน แต่ทางจีนก็ยังไม่ได้รับแจ้งว่ามีโครงการสำคัญๆ ถูกยกเลิกแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ประเทศต่างๆ กว่า 100 แห่งได้ลงนามข้อตกลงกับจีนเพื่อร่วมมือในโครงการ BRI อาทิ โครงการสร้างทางรถไฟ, ท่าเรือ, ทางหลวง และโครงการสาธารณูปโภคอื่นๆ โดยฐานข้อมูลของ Refinitiv ระบุว่า มีโครงการกว่า 2,600 โครงการ มูลค่ารวม 3.7 ล้านล้านดอลลาร์เข้าร่วมใน BRI
นายหวังกล่าวว่า ข้อจำกัดด้านการเดินทางและการขนส่งสินค้าข้ามแดน รวมถึงมาตรการภายในประเทศเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 เป็นเหตุผลสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อโครงการต่างๆ ใน BRI
"เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น เราหวังว่า โครงการต่างๆ จะกลับมา และการดำเนินโครงการจะเร็วขึ้น" นายหวังกล่าว
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นความท้าทายล่าสุดของโครงการ BRI หลังจากที่เคยสะดุดในปี 2561 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ในอินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ศรีลังกา และประเทศอื่นๆ วิพากษ์วิจารณ์โครงการต่างๆ ว่า มีค่าใช้จ่ายสูงและไม่จำเป็น
จีนได้ปรับลดแผนการบางอย่าง หลังจากหลายประเทศขอทบทวน, ยกเลิก หรือลดพันธกรณี โดยระบุถึงความวิตกด้านค่าใช้จ่าย, การลิดรอนอธิปไตย และการคอร์รัปชั่น