หุ้นของลุฟท์ฮันซ่า ซึ่งเป็นสายการบินรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ทะยานขึ้นกว่า 10% ในวันนี้ หลังผู้ถือหุ้นรายใหญ่เปิดเผยว่าจะยอมรับแผนช่วยเหลือสายการบินมูลค่า 9 พันล้านยูโร (1 หมื่นล้านดอลลาร์) จากรัฐบาลเยอรมนี
ไฮนซ์ แฮร์มันน์ ธีเลอ มหาเศรษฐีชาวเยอรมัน ซึ่งถือหุ้นในลุฟท์ฮันซ่าอยู่ 15.5% เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ Frankfurter Allgemeine ว่า ตนจะโหวตรับข้อเสนอของทางรัฐบาลในการประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้
ข่าวดังกล่าวช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของลุฟท์ฮันซ่า จากก่อนหน้านี้ที่มีรายงานว่า นายธีเลออาจใช้สิทธิวีโต้ไม่รับข้อเสนอจากทางรัฐบาลเยอรมนี ซึ่งจะให้เงินช่วยเหลือแลกกับที่นั่งในคณะกรรมการของสายการบินและเข้าถือหุ้น 20%
กลุ่มผู้ถือหุ้นจะโหวตรับหรือไม่รับแผนดังกล่าวในวันนี้ผ่านทางการประชุมออนไลน์ โดยนายธีเลอมีสิทธิวีโต้ เนื่องจากมีผู้ถือหุ้นเพียง 38% ที่ลงทะเบียนร่วมโหวต
นอกจากนี้ ในวันนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลของสหภาพยุโรป (EU) ยังได้อนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้ 6 พันล้านยูโรของลุฟท์ฮันซ่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงช่วยเหลือสายการบิน ภายใต้เงื่อนไขการห้ามจ่ายปันผล ห้ามซื้อหุ้นคืน และห้ามซื้อกิจการจำนวนหนึ่งจนกว่าจะชำระเงินคืนจนครบ
ทั้งนี้ ลุฟท์ฮันซ่า ซึ่งยกเลิกเที่ยวบินเกือบทั้งหมดมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เปิดเผยเมื่อต้นเดือนนี้ว่า ในไตรมาสแรกของปี 2563 รายได้ของบริษัทลดลง 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ระดับ 6.4 พันล้านยูโร (7.2 พันล้านดอลลาร์) ส่งผลให้บริษัทขาดทุนสุทธิ 2.1 พันล้านยูโร
โดยในตอนนั้น คาร์สเทน สปอหร์ ประธานคณะกรรมการบริหารของลุฟท์ฮันซ่า กล่าวว่า การจราจรทางอากาศทั่วโลกที่แทบจะหยุดนิ่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ในเดือนเม.ย.เพียงเดือนเดียว จำนวนผู้โดยสารของลุฟท์ฮันซ่าทรุดลงไปถึง 98.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับทางสายการบินทำให้ผู้บริหารของลุฟท์ฮันซ่าได้ออกมากล่าวหลายครั้งว่า การที่ธุรกิจจะดำเนินต่อไปได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเงินช่วยเหลือของรัฐบาล
ทั้งนี้ รัฐบาลเยอรมนีได้เสนอวงเงินช่วยเหลือ 9 พันล้านยูโร (1 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งทางคณะกรรมการกำกับดูแลของทางสายการบินได้เห็นชอบแล้ว แต่ยังคงต้องรอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของลุฟท์ฮันซ่า