นายไบรอัน เพียร์ซ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ว่า สายการบินต่างๆ อาจจะขาดทุน 8.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ หลังจากที่การเดินทางอากาศทรุดตัวลงอย่างหนักถึง 98% ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากประเทศต่างๆ ปิดพรมแดนเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
"เราเพิ่งเริ่มเห็นประเทศต่างๆ กำลังเจรจากันเพื่อเปิดตลาดการบินทวิภาคี อาทิ โครงการ Trans-Tasman bubble ระหว่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์, จีนและสิงคโปร์ และ จีนกับเกาหลีใต้" นายเพียร์ซกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายเพียร์ซคาดว่า อุตสาหกรรมการบินจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ขณะที่การเดินทางระหว่างประเทศยังคงมีแนวโน้มอ่อนแอในขณะนี้ ประเทศต่างๆ อาทิ จีน, สหรัฐ และอินโดนีเซียได้เริ่มเปิดการเดินทางทางอากาศภายในประเทศแล้ว
"นั่นเพียงพอที่จะเริ่มฟื้นอุตสาหกรรมสายการบินในบางประเทศ" นายเพียร์ซกล่าว "สำหรับสายการบินจำนวนมากนั้นพึ่งพาการเดินทางระหว่างประเทศ"
นายคีธ เมสัน หัวหน้าศูนย์บริหารการขนส่งทางอากาศที่มหาวิทยาลัยแครนฟิลด์กล่าวว่า ความช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นปัจจัยสำคัญในการรับประกันความอยู่รอดของสายการบินต่างๆ
"เราจะเห็นการปรับตัวในตลาดซึ่งสายการบินที่เป็นอิสระอย่างเต็มที่กำลังเผชิญความยากลำบากในการอยู่รอด และจะต้องออกจากธุรกิจ" เมสันกล่าวให้สัมภาษณ์กับ CNBC
บางสายการบินประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก อาทิ สายการบิน Flybe ในอังกฤษ, เวอร์จิน ออสเตรเลีย และ ทรานส์ สเตทส์ แอร์ไลน์ในสหรัฐ
ทั้งนี้ รัฐบาลต่างๆ กำลังเสนอความช่วยเหลือด้านการเงินเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยให้สายการบินต่างๆ ให้อยู่รอด รวมถึงรัฐบาลสหรัฐ, ออสเตรเลีย และไต้หวัน ขณะที่ IATA คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมสายการบินอาจต้องได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลทั่วโลกเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์