เชซาพีค เอเนอร์จี คอร์ป (Chesapeake Energy Corp) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐ ได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายสหรัฐ โดยเชซาพีคเป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจากอุปสงค์น้ำมันและก๊าซที่ทรุดตัวลง อันเนื่องมาจากรัฐบาลประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ เชซาพีค เอเนอร์จี ได้ยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลแขวงรัฐเท็กซัสเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า บริษัทมีทรัพย์สินและหนี้สินในวงเงิน 1-5 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีเจ้าหนี้มากกว่า 100,000 ราย
เชซาพีค เอเนอร์จี ก่อตั้งขึ้นในปี 2532 โดยนายอูเบรย์ แมคเคลนดอน โดยบริษัทมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมก๊าซในสหรัฐ ซึ่งในยุคเฟื่องฟูนั้น เชซาพีคมีแท่นขุดเจาะก๊าซจำนวนมากถึง 175 แท่น และมีการดำเนินงานทั่วสหรัฐ ซึ่งรวมถึงรัฐเท็กซัส ลุยเซียนา เพนซิลเวเนีย และโอไฮโอ
อย่างไรก็ดี เชซาพีคได้กู้ยืมเงินจำนวนมากมาใช้ในการขยายกิจการ โดยในช่วงปี 2553-2555 เชซาพีคใช้จ่ายเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในการสร้างแท่นขุดเจาะ ซึ่งเงินกู้เหล่านี้มีมูลค่าสูงกว่ารายได้จากการดำเนินงานของบริษัท
อุตสาหกรรมพลังงานของสหรัฐได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ข้อมูลล่าสุดของศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า ณ เวลา 17.33 น.ของวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ (ประมาณ 04.33 น.ตามเวลาไทยในวันนี้) ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทั่วโลกอยู่ที่ 500,321 ราย ส่วนยอดติดเชื้อทั่วโลกอยู่ที่ 10,072,616 ราย