นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ เกี่ยวกับบทบาทของเฟดและกระทรวงการคลังสหรัฐในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายพาวเวลกล่าวว่า การเปิดเศรษฐกิจที่รวดเร็วเกินคาดของสหรัฐนั้น ทำให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศเผชิญกับความท้าทายแบบใหม่ โดยจะเห็นได้จากหลักฐานที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พุ่งขึ้นทั่วประเทศเมื่อไม่นานมานี้
"เราได้เข้าสู่ระยะใหม่ที่มีความสำคัญ และก้าวเข้าสู่ระยะดังกล่าวรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นนั้น เราก็กำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความท้าทายในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19" นายพาวเวลกล่าว
"แนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก และจะขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการควบคุมไวรัสชนิดนี้ ส่วนการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์จะยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อความปลอดภัยในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ และแนวโน้มในอนาคตจะขึ้นอยู่กับการดำเนินมาตรการของรัฐบาลในทุกระดับเพื่อให้การเยียวยาและสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ" นายพาวเวลกล่าว
ทางด้านนายมนูชินได้แสดงมุมมองที่ค่อนข้างเป็นบวกว่า "ขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งมากพอที่จะฟื้นตัวขึ้นได้อีกครั้ง เนื่องจากคณะบริหารของรัฐบาลสหรัฐได้ร่วมมือกับสภาคองเกรสในการผ่านกฎหมายเยียวยาเศรษฐกิจ และจัดหาสภาพคล่องให้กับตลาดในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้"
"แม้อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ แต่เราก็เห็นสัญญาณบวกเพิ่มขึ้นว่า ภาวะต่างๆในระบบเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ ขณะที่อุตสาหกรรมในภาคส่วนต่าง เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้างนั้น กำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนอุตสาหกรรมด้านอื่นๆ เช่นค้าปลีกและการท่องเที่ยวคาดว่าจะเผชิญผลกระทบที่ยาวนานกว่า และอาจจะต้องได้รับความช่วยเหลือเพิ่มอีก" นายมนูชินกล่าว
ในการแถลงครั้งนี้ ทั้งนายพาวเวลและนายมนูชินต่างก็ให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าพยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขในครั้งนี้ไปให้ได้ โดยนายมนูชินกล่าวว่า กระทรวงการคลังและเฟดกำลังหาลู่ทางที่จะขยายโครงการเงินกู้ฉุกเฉิน 11 โครงการที่จัดตั้งขึ้นโดยเฟดให้สามารถเข้าถึงความต้องการของตลาดเป็นวงกว้าง พร้อมกับย้ำว่า โครงการเงินกู้เพิ่มเติมเพื่อเยียวยาผลกระทบโควิด-19 นั้น จำเป็นต้องผ่านการพิจารณาจากสภาคองเกรส ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะใหม่
ทางด้านนายพาวเวลย้ำว่า เป้าหมายของโครงการเงินกู้ของเฟดนั้น คือการช่วยเหลือประชาชนราว 25 ล้านคนที่ตกงานในช่วงโควิด-19 ระบาด ให้สามารถกลับมาทำงานได้อีกครั้ง นอกจากนี้ นายพาวเวลยังเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งพิจารณาความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้กับภาคครัวเรือน บริษัทเอกชน รัฐบาลของรัฐต่างๆ เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากความเสียหายในระยะยาว