COVID-19โควิดระบาดส่งผลบริษัทสหรัฐยื่นขอล้มละลายอัตราสูงสุดในรอบ 7 ปี

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 1, 2020 15:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หนังสือพิมพ์เดอะไฟแนนเซียลไทม์สรายงานว่า บริษัทสัญชาติอเมริกันพากันยื่นขอล้มละลายในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2556 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงทวีความรุนแรงทั่วประเทศ

รายงานดังกล่าวได้อ้างข้อมูลจาก Epiq ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการด้านกฎหมาย โดยระบุว่า ปีนี้มีบริษัทถึง 3,427 แห่งแล้วที่ยื่นขอล้มละลายภายใต้กฎหมายมาตรา 11 ของสหรัฐ ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนบริษัท 3,491 แห่งที่ยื่นขอล้มละลายในช่วงครึ่งแรกของปี 2551

รายงานระบุว่า "ข้อมูลดังกล่าวสวนทางกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ดูเหมือนจะเริ่มฟื้นตัวจากการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งของธนาคารกลางทั่วโลก และการที่เศรษฐกิจของประเทศต่างๆ เริ่มกลับมาดำเนินการตามปกติอีกครั้ง" พร้อมระบุต่อไปว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโรคโควิด-19 นั้น มากเกินกว่าที่บริษัทบางแห่งจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้

"เป็นเรื่องยากมากที่บริษัทเหล่านี้จะสามารถกลับมาดำเนินการได้ในสถานการณ์ที่รายได้เกือบเป็นศูนย์" ซูดีฟ เคช หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ตลาดเครดิตของ S&P Global Ratings กล่าว "พวกเขากำลังเผชิญแรงกดดันมหาศาล"

รายงานของเดอะไฟแนนเซียลไทม์สระบุต่อไปว่า เมื่อครั้งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจล่าสุดในปี 2551 มีบริษัทในสหรัฐจำนวน 8,614 แห่งที่ยื่นขอล้มละลาย และตัวเลขดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 12,644 แห่งในปี 2552

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงานดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่โครงการ Paycheck Protection Program (PPP) ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาลสหรัฐที่มุ่งช่วยวิสาหกิจขนาดเล็กให้สามารถจ้างพนักงานต่อไปได้ในขณะที่ต้องเผชิญวิกฤตไวรัสโควิดระบาดนั้น กำลังจะสิ้นสุดลงในวันอังคารนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมีงบประมาณที่ยังไม่ถูกนำไปใช้ถึง 1.3 แสนล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ โครงการ PPP ซึ่งถูกมองว่าเป็นโครงการที่มาช่วยต่อชีวิตให้กับบริษัทขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น กำลังเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากมีบริษัทขนาดใหญ่บางแห่งได้รับเงินกู้หลายล้านดอลลาร์จากโครงการนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ