ข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการผลิตยารักษาโรคโควิด-19 เป็นปัจจัยหนุนในภูมิภาคเอเชียพุ่งขึ้นในช่วงเช้านี้ หลังจาก Gilead Sciences Inc ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาของสหรัฐเปิดเผยว่า จากผลการทดลองพบว่า ยา remdesivir ของ Gilead สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ได้ถึง 62% เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยวิธีมาตรฐาน
ขณะนี้ ยา remdesivir ได้รับการยอมรับในหลายประเทศ โดยรัฐบาลสิงคโปร์ ญี่ปุ่นและอินเดีย ต่างก็ให้การอนุมัติการใช้ยา remdesivir ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง
-- นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในรัฐต่างๆของสหรัฐ โดยล่าสุดหน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐฟลอริดารายงานว่า ณ วันอาทิตย์ที่ 12 ก.ค. พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรัฐฟลอริดาสูงถึง 15,299 ราย ทำสถิติติดเชื้อรายวันสูงสุดเมื่อเทียบกับรัฐอื่นๆในสหรัฐ นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดภายในประเทศ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในรัฐฟลอริดาเพิ่มขึ้นเป็น 269,811 ราย
นอกจากนี้ ยังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 45 ราย ซึ่งทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในรัฐฟลอริดาเพิ่มขึ้นเป็น 4,346 ราย
-- นักลงทุนจับตาการประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันที่ 15 ก.ค.นี้ โดยจะมีการหารือกันเกี่ยวกับข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดภายในสิ้นเดือนนี้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา โอเปกพลัสได้บรรลุข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วันออกไปจนถึงเดือนก.ค. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.
-- ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนยังคงเป็นที่จับตาของตลาดการเงิน โดยล่าสุดนายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับแอปโซเชียลมีเดียชื่อดังของจีนอย่าง TikTok และ WeChat ฐานทำสงครามสารสนเทศกับสหรัฐ โดยอาจถึงขั้นแบน 2 แอปดังกล่าวในประเทศ
นายนาวาร์โร เปิดเผยว่า แม้ TikTok จะจ้างซีอีโอชาวอเมริกันมาบริหารบริษัท แต่ TikTok ยังคงเป็นบริษัทจีน การใช้ชาวอเมริกันมาเป็นหุ่นเชิดเหมือนๆกับที่หัวเว่ยทำนั้น ไม่ได้ช่วยทำให้ TikTok ดูดีขึ้น เพราะจีนจะยังคงได้รับเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากการที่แอปโซเชียลมีเดียนี้ให้บริการในสหรัฐ
-- สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีน ณ สิ้นเดือนมิ.ย. อยู่ที่ระดับ 3.1123 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 0.3% จากระดับ 3.1017 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนพ.ค.
นางหวัง ชุนหยิง โฆษกและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ SAFE เปิดเผยว่า ตลาดปริวรรตเงินตราของจีนยังคงมีเสถียรภาพในเดือนมิ.ย. โดยอุปสงค์และอุปทานอยู่ในภาวะสมดุล ส่วนปัจจัยที่ทำให้ทุนสำรองปรับตัวสูงขึ้นในเดือนมิ.ย.นั้น มาจากหลากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงอัตราแลกเปลี่ยน และการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์
-- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน (CDC) ระบุว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่เชื่อมโยงกับตลาดค้าส่งซินฟาตี้ในกรุงปักกิ่ง ได้อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว
รายงานระบุว่าการติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับตลาดซินฟาตี้ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ อาทิ มณฑลเหอเป่ย เหลียวหนิง และเจ้อเจียง ต่างอยู่ภายใต้การควบคุมแล้วเช่นกัน โดยมีการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนที่เกี่ยวโยงกับตลาดแห่งนี้ทั้งหมด 29 ครั้ง ซึ่งรวมถึงในที่สาธารณะ 10 ครั้ง และระหว่างสมาชิกครอบครัว 13 ครั้ง
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ยอมสวมหน้ากากอนามัยออกสื่อระหว่างเยือนโรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่งใกล้กับกรุงวอชิงตันดีซีเมื่อวานนี้ โดยสำนักข่าวซินหัวรายงานว่าเป็นครั้งแรกที่ปธน.ทรัมป์สวมหน้ากากอนามัยออกสื่อนับตั้งแต่ที่โรคโควิด-19 เริ่มระบาดในสหรัฐ
ปธน.ทรัมป์ซึ่งที่ผ่านมามักจะหลีกเลี่ยงการสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ในวันพฤหัสบดีว่า "ผมคิดว่าจะสวมหน้ากากอนามัยเมื่อไปวอลเตอร์ รีด เพราะที่นั่นคือโรงพยาบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง ผมไม่มีปัญหากับการสวมหน้ากากอนามัยอยู่แล้ว"
-- พรรคกิจประชาชน (People's Action Party หรือ PAP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของสิงคโปร์ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วประเทศซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ แต่ได้เสียงข้างมากลดลง เนื่องจากประชาชนไม่พอใจกับการที่เศรษฐกิจสิงคโปร์เผชิญภาวะถดถอยครั้งเลวร้ายที่สุดซึ่งเกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ พรรค PAP ได้จำนวนส.ส.ไป 83 ที่นั่ง จากทั้งหมด 93 ที่นั่งในรัฐสภา ขณะที่พรรคแรงงาน (Workers' Party) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านสำคัญได้ 10 ที่นั่ง เพิ่มขึ้น 4 ที่นั่งจากเดิม 6 ที่นั่ง
ส่วนแบ่งคะแนนเสียงของพรรค PAP ลดลงเหลือ 61.24% ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จาก 69.9% ในการเลือกตั้งครั้งก่อนเมื่อปี 2558 เนื่องจากชาวสิงคโปร์ผิดหวังกับค่าครองชีพที่ระดับสูง และนโยบายเปิดรับชาวต่างชาติ ซึ่งทำให้ชาวสิงคโปร์ตกงาน
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยเยอรมนีเตรียมเปิดเผยราคาค้าส่งเดือนมิ.ย. และจีนเปิดเผยยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนมิ.ย.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ จีนมีกำหนดเปิดเผยดุลการค้าเดือนพ.ค. เยอรมนีเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ขณะที่อังกฤษเตรียมเปิดเผยดุลการค้าเดือนพ.ค.และการผลิตภาคอุตสาหกรรม ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย.