นักลงทุนและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า BOJ จะยังคงเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ และคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ -0.1% และคงดอกเบี้ยระยะยาวไว้ที่ระดับ 0% รวมทั้งจะจับตาผลที่เกิดขึ้นจากการใช้มาตรการสนับสนุนภาคชน
-- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า การสวมหน้ากากอนามัยเป็นข้อกำหนดที่สำคัญอย่างมากในการลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากผลการศึกษาบ่งชี้ว่า ช่างทำผม 2 คนในรัฐมิสซูรีซึ่งติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลานั้น ไม่ได้แพร่เชื้อให้กับลูกค้า 139 คนที่เข้ามารับบริการในร้าน
-- ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า ณ เวลา 16.38 น. ของวันอังคารตามเวลาสหรัฐ (ประมาณ 03.38 น. ตามเวลาไทยในวันนี้) ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐอยู่ที่ 3,406,945 ล้านราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 136,244 ราย
รายงานระบุว่า นิวยอร์กยังคงเป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุด โดยอยู่ที่ 403,175 ราย และยอดเสียชีวิตอยู่ที่ 32,408 ราย
-- นางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 นั้น มีแนวโน้มที่จะเป็นไปอย่างยากลำบาก และเฟดอาจจะต้องใช้เครื่องมือด้านนโยบายใหม่ ซึ่งได้แก่ การควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (yield curve control) เพื่อช่วยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
-- ศาลแขวงเมืองแมสซาชูเซตส์เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการที่จะไม่ออกวีซ่าให้กับนักเรียนและนักศึกษาต่างชาติที่เข้าเรียนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยในสหรัฐ หากสถานศึกษาแห่งนั้นเปลี่ยนไปใช้หลักสูตรออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบในภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้
คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการดังกล่าว หลังมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงเมืองแมสซาชูเซตส์ เพื่อให้ศาลมีคำสั่งยับยั้งมิให้รัฐบาลสหรัฐออกกฎระเบียบที่กำหนดให้นักศึกษาต่างชาติจะต้องเดินทางออกนอกประเทศ หากมหาวิทยาลัยมีการเปลี่ยนแปลงไปใช้หลักสูตรการเรียนการสอนแบบออนไลน์เพียงอย่างเดียว
-- กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า รัฐบาลจีนจะใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อตอบโต้องค์กรและบุคลากรของสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฎหมายการคว่ำบาตรจีน และลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหาร เพื่อยุติการให้สถานะพิเศษแก่ฮ่องกงด้วย
ความเคลื่อนไหวของจีนมีขึ้นหลังจากปธน.ทรัมป์เปิดเผยในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาวในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทยว่า เขาได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายการคว่ำบาตรจีน เพื่อตอบโต้จีนที่แทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกง นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้ลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหาร เพื่อยุติการให้สถานะพิเศษแก่ฮ่องกงด้วย
-- นายมาร์ค วิลลาร์ รัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและทางหลวงของฟิลิปปินส์ เปิดเผยในวันนี้ถึงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของตนเองว่าออกมาเป็นบวก ส่งผลให้นายวิลลาร์เป็นรัฐมนตรีรายที่ 3 ของฟิลิปปินส์ที่ติดเชื้อโควิด-19
-- หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ประกาศย้ายสำนักงานบางส่วนในฮ่องกงไปตั้งที่กรุงโซลของเกาหลีใต้ เนื่องจากกังวลว่ากฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่จีนบังคับใช้ในฮ่องกงนั้น จะกระทบต่อเสรีภาพของสื่อ
-- กระทรวงสาธารณสุขอินเดียเปิดเผยในวันนี้ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 582 ราย และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 29,429 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 24,309 ราย และยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 936,181 ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่มีการรายงานในวันนี้ ถือเป็นสถิติรายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอินเดีย
-- คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการสื่อสารโทรคมนาคมของเกาหลีใต้ (KCC) เปิดเผยว่า ได้สั่งปรับแพลตฟอร์ม TikTok ของจีนเป็นวงเงิน 186 ล้านวอน (ประมาณ 155,000 ดอลลาร์) ในข้อหาเก็บบันทึกข้อมูลผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปี โดยปราศจากความยินยอมจากผู้ปกครอง และไม่มีการแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบว่ามีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ไปยังต่างประเทศ