นายซาเวียร์ เบทเทล นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์ก กล่าวว่า หากสหภาพยุโรป (EU) ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (8.55 แสนล้านดอลลาร์) ก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อ EU และตลาดการเงิน เนื่องจากจะทำให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจต่อความน่าเชื่อถือของ EU ในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งต่อไป
ทั้งนี้ ผู้นำ 27 ชาติของ EU ได้เดินทางมารวมตัวกันที่กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจะมีการประชุมในวันนี้เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการประชุมดังกล่าวจะยืดเยื้อออกไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้ เนื่องจากสมาชิก EU ยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับการกำหนดเงื่อนไขในการรับความช่วยเหลือจากกองทุนดังกล่าว รวมถึงการจัดสรรเงินช่วยเหลือ และการกำกับดูแลการใช้เงิน
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการอนุมัติกองทุนดังกล่าว เนื่องจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่า การจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจจะต้องได้รับฉันทามติจากสมาชิกทั้ง 27 ชาติของ EU ซึ่งแตกต่างจากธรรมเนียมปฏิบัติของ EU ที่ต้องการคะแนนเสียงส่วนใหญ่จากสมาชิก 27 ชาติเท่านั้น
เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU ได้เสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร เพื่อช่วยเยียวยาเศรษฐกิจ EU จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยประกอบด้วยเงินให้เปล่าจำนวน 5 แสนล้านยูโร และเงินกู้ 2.5 แสนล้านยูโรสำหรับชาติสมาชิก EU