การประชุมผู้นำ 27 ชาติของสหภาพยุโรป (EU) เข้าสู่วันที่ 3 แล้วในวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น แต่ที่ประชุมยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (8.57 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยเยียวยาเศรษฐกิจ EU จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากประเทศสมาชิกบางประเทศมองว่าวงเงินช่วยเหลือมีขนาดใหญ่เกินไป และไม่เห็นด้วยกับการให้เปล่า แต่ควรให้ในรูปแบบเงินกู้มากกว่า
รายงานระบุว่า สมาชิก EU ยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับการกำหนดเงื่อนไขในการรับความช่วยเหลือจากกองทุนดังกล่าว รวมถึงการจัดสรรเงินช่วยเหลือ และการกำกับดูแลการใช้เงิน
โดยเงินส่วนหนึ่งของกองทุนดังกล่าวจะถูกจัดสรรให้แก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากวิกฤตการระบาดโดยไม่ต้องชำระคืน และที่เหลือเป็นเงินกู้ ซึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 เช่น อิตาลี และ สเปน จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากแผนฟื้นฟูดังกล่าว
ขณะที่เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน และออสเตรีย หรือ Frugal Four (สี่ตระหนี่) คัดค้านการให้เงินแบบให้เปล่า และขอให้ประเทศที่ได้รับเงินกู้จะต้องทำการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อแลกกับการได้รับเงินกู้
รายงานระบุว่า นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี จะร่วมกับประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และนายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป และเจ้าภาพจัดการประชุม ในการจัดเตรียมข้อเสนอใหม่เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง หลังจากที่นายกรัฐมนตรี มาร์ก รุตเตอ และชาติพันธมิตร ขัดขวางการทำข้อตกลง