นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวแสดงความยินดีต่อรายงานที่ว่า วัคซีนที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท AstraZeneca ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการทดลองในมนุษย์
อย่างไรก็ดี นายแพทย์ไรอันเตือนว่า การทดลองดังกล่าวยังคงอยู่ในช่วงเริ่มแรก และยังคงต้องมีหลักฐานบ่งชี้มากขึ้นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนดังกล่าว
"นี่ถือเป็นข่าวดี แต่ก็ยังคงมีหนทางอีกยาวไกล โดยเราจะต้องทำการทดลองกับคนจำนวนมากในโลก" นายแพทย์ไรอันกล่าว
The Lancet ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ เปิดเผยว่า วัคซีน ChAdOx1 nCoV-19 ที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท AstraZeneca และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการทดลองในมนุษย์
ทั้งนี้ AstraZeneca และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดได้ทำการทดลองวัคซีนในเฟสแรกกับอาสาสมัครจำนวนมากกว่า 1,000 คน โดยพบว่าร่างกายสามารถผลิตแอนติบอดีและเม็ดเลือดขาวในการกำจัดเชื้อไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ยังมีการพบแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ (Neutralizing antibody) ในอาสาสมัครหลังจากได้รับวัคซีนเป็นเวลา 28 วัน โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าแอนติบอดีดังกล่าวมีความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
AstraZeneca ระบุว่าวัคซีนดังกล่าวไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง ยกเว้นในอาสาสมัครบางรายที่มีอาการปวดศีรษะ เหนื่อยล้า มีไข้ และปวดกล้ามเนื้อ