พรรคเดโมแครตได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อขยายเวลาการใช้มาตรการให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด
ในขณะที่เจ้าหน้าที่จากทำเนียบขาวและสมาชิกสภานิติบัญญัติในสังกัดพรรคเดโมแครตยังคงล้มเหลวในการร่างแผนบรรเทาเศรษฐกิจครั้งใหม่ ปธน.ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่ง 4 ฉบับเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยพยายามเลี่ยงสภาคองเกรสและใช้อำนาจฝ่ายบริหาร
หนึ่งในคำสั่งบริหารของทรัมป์จะเปิดทางให้ขยายระยะเวลาในการให้ผลประโยชน์แก่ผู้ว่างงานไปจนถึงช่วงสิ้นปีนี้ที่อัตรา 400 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากระดับ 600 ดอลลาร์ตามที่สภาคองเกรสได้อนุมัติไปเมื่อปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา และคำสั่งดังกล่าวได้หมดอายุลงเมื่อช่วงสิ้นเดือนก.ค.
ปธน.ทรัมป์ เปิดเผยว่า การลดผลประโยชน์แก่ผู้ว่างงานจะเป็น "ตัวกระตุ้นชั้นดี" ให้ประชาชนกลับไปทำงาน โดยคำสั่งใหม่นี้ยังสั่งให้มลรัฐต่างๆ รับผิดชอบผลประโยชน์แก่ผู้ว่างงานที่อัตรา 400 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ดังกล่าวเป็นสัดส่วน 25% ด้วย
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา ระบุในแถลงการณ์ร่วมว่า "แทนที่จะผ่านร่างกฎหมาย ปธน.ทรัมป์กลับลดผลประโยชน์แก่ผู้ว่างงาน และทำให้มลรัฐต่างๆ เผชิญวิกฤติงบประมาณ ส่งผลให้รัฐเหล่านี้ต้องปรับลดงบในส่วนบริการที่อาจเป็นหรือตายอย่างน่าอันตราย"
ด้านนายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ยังได้วิจารณ์คำสั่งดังกล่าวของปธน.ทรัมป์ด้วย โดยระบุว่าเป็นคำสั่ง "ครึ่งๆ กลางๆ"
นายไบเดน ระบุในแถลงการณ์ว่า "คำสั่งเหล่านี้ไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหาที่แท้จริง โดยเป็นแผนที่ดูถูกประชาชนเพื่อเบี่ยงความรับผิดชอบ มาตรการบางอย่างให้ผลร้ายมากกว่าผลดี" และระบุว่า ปธน.ทรัมป์ กำลังทำให้หลักประกันสังคมตกอยู่ใน "ความเสี่ยงร้ายแรง" ด้วยแผนภาษีค่าจ้างดังกล่าว