ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อขยายเวลาการใช้มาตรการให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด
การตัดสินใจของปธน.ทรัมป์ได้สร้างความไม่พอใจจากแกนนำพรรคเดโมแครต เนื่องจากคำสั่งบริหารของทรัมป์จะเปิดทางให้ขยายระยะเวลาในการให้ผลประโยชน์แก่ผู้ว่างงานไปจนถึงช่วงสิ้นปีนี้ที่อัตรา 400 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากระดับ 600 ดอลลาร์ตามที่สภาคองเกรสได้อนุมัติไปเมื่อปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา ระบุในแถลงการณ์ร่วมว่า "แทนที่จะผ่านร่างกฎหมาย ปธน.ทรัมป์กลับลดผลประโยชน์แก่ผู้ว่างงาน และทำให้มลรัฐต่างๆ เผชิญวิกฤติงบประมาณ ส่งผลให้รัฐเหล่านี้ต้องปรับลดงบในส่วนบริการที่อาจเป็นหรือตายอย่างน่าอันตราย"
-- นายเดเมียนอส กัตตาร์ รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของเลบานอน และนางมานัล อับเดล ซาหมัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศของเลบานอน ได้ประกาศลาออกจากแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ระเบิดรุนแรงในกรุงเบรุตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 158 ราย และบาดเจ็บ 6,000 คน
-- เจ้าหน้าที่ตำรวจเลบานอนยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงที่พากันขว้างปาหินและปิดกั้นถนนที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภาเลบานอนในกรุงเบรุตในช่วงค่ำของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้แสดงความไม่พอใจต่อเหตุระเบิดรุนแรงในกรุงเบรุต พร้อมกับเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบการเมือง เพราะเชื่อว่าเหตุระเบิดครั้งนี้มีต้นตอมาจากการทุจริตคอร์รัปชัน
รายงานระบุว่า ได้เกิดเพลิงลุกไหม้บริเวณทางเข้าอาคารรัฐสภาเลบานอน ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงพยายามบุกเข้าไปยังด้านในของอาคารรัฐสภาและที่ทำการของกระทรวงขนส่ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาเข้าสกัดเอาไว้ได้
-- ผู้นำจากกว่า 10 ประเทศทั่วโลกซึ่งเข้าร่วมการประชุมเพื่อให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่เลบานอน ได้ให้คำมั่นว่าจะมอบเงิน 298 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยสนับสนุนเลบานอน และฟื้นฟูกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน หลังจากเกิดเหตุระเบิดรุนแรงในกรุงเบรุตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมากในเมืองหลวงแห่งนี้
การประชุมดังกล่าวร่วมกันจัดขึ้นโดยนายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และองค์การสหประชาชาติ (UN) เมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมได้ให้คำมั่นว่าจะระดมทรัพยากรครั้งใหญ่เพื่อให้ความช่วยเหลือเลบานอน ซึ่งครอบคลุมถึงการบูรณะฟื้นฟูกรุงเบรุต และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ บรรดาผู้นำของประเทศต่างๆที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ได้ให้คำมั่นว่าจะมอบเงิน 252.7 ล้านยูโร หรือประมาณ 298 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่เลบานอน พร้อมกับระบุว่า "เลบานอนไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายในขณะนี้"
-- นายมาร์ก ไซมอน ผู้ช่วยของนายจิมมี ไล มหาเศรษฐีเจ้าพ่อสื่อชาวฮ่องกง ได้ทวีตข้อความลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า นายไลถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวในข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ ภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่จีนเพิ่งประกาศใช้กับฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ข้อความในทวิตเตอร์ระบุว่า "ตอนนี้ จิมมี ไล กำลังถูกตำรวจจับกุมในข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ"
ทั้งนี้ นายจิมมี ไล วัย 72 ปี เป็นเจ้าของบริษัท Next Digital ผู้ตีพิมพ์หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ Apple Daily ซึ่งถูกมองว่าเป็นหนังสือพิมพ์ที่สนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งขยับขึ้นจากเดือนมิ.ย.ที่มีการขยายตัว 2.5%
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ปรับตัวลง 2.4% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบเป็นรายปี
อย่างไรก็ดี ดัชนี PPI เดือนก.ค. ปรับตัวลงน้อยกว่าในเดือนมิ.ย.ซึ่งร่วงลงถึง 3%
-- ติ๊กต็อก (TikTok) วางแผนที่จะยื่นเรื่องฟ้องรัฐบาลสหรัฐ ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามคำสั่งบริหารเพื่อแบนติ๊กต็อกและวีแชท ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นชื่อดังของจีน
เนชั่นแนล พับลิค เรดิโอ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ติ๊กต็อกเตรียมที่จะยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐอย่างเร็วที่สุดในวันอังคารที่จะถึงนี้ รวมทั้งชี้แจงว่า การดำเนินการของทรัมป์ขัดกับรัฐธรรมนูญ เนื่องจากทรัมป์ไม่ได้เปิดโอกาสให้บริษัทได้ชี้แจง และการดำเนินการโดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคงของสหรัฐก็ถือเป็นเรื่องที่ไร้ซึ่งข้อมูลสนับสนุน
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีห้ามไม่ให้บุคคลหรือบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมใด ๆ กับบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่และเจ้าของ ติ๊กต็อก (TikTok) แอปพลิเคชันแชร์คลิปวิดีโอ โดยให้มีผลบังคับใช้ในอีก 45 วัน
-- สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า กองทุน ETF ที่ลงทุนในทองคำทั่วโลก เพิ่มการซื้อทองคำอีก 166 ตันในเดือนก.ค. ส่งผลให้การถือครองทองคำของกองทุน ETF ทั่วโลกแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 3,758 ตันในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้
นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของโรคโควิด-19 ทำให้นักลงทุนพากันเข้าลงทุนในผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เกี่ยวกับทองคำซึ่งถือเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย โดยส่วนใหญ่ได้แก่การลงทุนในกองทุน ETF ทองคำ
WGC ระบุว่า ณ สิ้นเดือนก.ค. กองทุน ETF ทองคำทั่วโลกเพิ่มการซื้อทองคำสุทธิเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยสหรัฐเตรียมเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมิ.ย.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนมิ.ย. ออสเตรเลียเปิดเผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ค.จากเนเชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) อังกฤษเผยอัตราว่างงานเดือนมิ.ย., สถาบัน ZEW เปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนส.ค.ของสหภาพยุโรปและเยอรมนี ทางด้านสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.ค. จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.