World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 20, 2020 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจเผชิญกับความเสี่ยงสูง พร้อมกับเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ ในขณะที่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการออกมาตรการดังกล่าวจนถึงขณะนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,692.88 จุด ลดลง 85.19 จุด หรือ -0.31%

-- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืน หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจเผชิญกับความเสี่ยงสูง พร้อมกับเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ ในขณะที่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการออกมาตรการดังกล่าวจนถึงขณะนี้

-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ก.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนที่สูงมาก และคาดว่า ทิศทางเศรษฐกิจในวันข้างหน้าจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกทั้งขึ้นอยู่กับว่าการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งนั้น จะสามารถทำได้เป็นวงกว้างและมีเสถียรภาพมากเพียงใด

-- ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า ณ เวลา 13.27 น.ของวันพุธตามเวลาสหรัฐ หรือ 00.27 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 5,505,074 ราย และยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 172,418 ราย

-- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.85% ในวันนี้ และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.65%

ธนาคารกลางจีนได้คงอัตราดอกเบี้ย LPR ทั้งประเภท 1 ปี และ 5 ปี ติดต่อกันเป็นเวลา 4 เดือน หลังจากเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปี ลง 0.2% สู่ระดับ 3.85% และได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ลง 0.1% สู่ระดับ 4.65% โดยมีเป้าหมายที่จะปรับลดต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเอกชน และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวอีกครั้ง หลังจากเศรษฐกิจจีนหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี อันเนื่องมาจากผลกระทบของโรคโควิด-19

-- กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าระหว่างเมียนมากับประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) สูงกว่า 9.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 แสนล้านบาท) ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562-2563

เมียนมากวาดรายได้จากการส่งออกสินค้าไปยังประเทศสมาชิกอาเซียนรวมกว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.1 แสนล้านบาท) นับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2019 ถึง 31 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่มูลค่านำเข้าสูงทะลุ 6.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.9 แสนล้านบาท)

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานการประชุมเดือนก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะเผยแพร่รายงานการประชุมดังกล่าว

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 42.8 ดอลลาร์ หรือ 2.13% ปิดที่ 1,970.3 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า สหรัฐและจีนวางแผนที่จะกำหนดวันเจรจาการค้าอีกครั้ง หลังจากทั้งสองฝ่ายได้เลื่อนการเจรจาผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เพื่อทบทวนข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่กำหนดไว้ในวันเสาร์ที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ แม้ยังไม่มีการกำหนดวันเจรจาครั้งใหม่ที่ชัดเจน แต่แหล่งข่าวระบุว่า การเจรจาอาจเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐยอมรับว่า ตนเป็นฝ่ายยกเลิกการเจรจาการค้ากับจีนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดกันว่าเป็นเพราะปธน.ทรัมป์ไม่พอใจจีนในประเด็นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

-- นางมอร์แกน ออร์ทากัส โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐได้ยกเลิกสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน รวมถึงยุติการยกเว้นภาษีเงินได้จากการเดินเรือระหว่างประเทศที่เคยทำไว้กับฮ่องกง เนื่องจากสหรัฐมีความกังวลเกี่ยวกับการที่รัฐบาลจีนประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ซึ่งบั่นทอนเสรีภาพของชาวฮ่องกง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายการคว่ำบาตรจีน เพื่อตอบโต้จีนที่แทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกง นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้ลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหาร เพื่อยุติการให้สถานะพิเศษทางการค้าแก่ฮ่องกงด้วย

-- ราคาหุ้นกู๊ดเยียร์ร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความเรียกร้องให้ชาวอเมริกันเลิกใช้ยางกู๊ดเยียร์ หลังจากที่บริษัทออกนโยบายห้ามพนักงานสวมเครื่องแต่งกายที่มีสัญลักษณ์ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองใดๆ ซึ่งรวมถึงการห้ามสวมหมวกแก๊บที่มีข้อความว่า "Make America Great Again" ซึ่งเป็นสโลแกนในการหาเสียงของปธน.ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่แล้ว

"อย่าซื้อยางกู๊ดเยียร์ เพราะพวกเขาประกาศห้ามสวมหมวก MAGA (Make America Great Again)" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

-- บริษัทแอปเปิล อิงค์ กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรกของสหรัฐและของโลก ที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้

ทั้งนี้ มูลค่าตลาดของแอปเปิลพุ่งขึ้นมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ในเวลาราว 11.00 น.ของวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ ขณะที่ราคาหุ้นแอปเปิลดีดตัวสู่ระดับ 467.77 ดอลลาร์ โดยแอปเปิลมีหุ้นในตลาดทั้งหมดมากกว่า 4.275 พันล้านหุ้น

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยเยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. และสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนส.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ค.จาก Conference Board

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. ญี่ปุ่นจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค. อังกฤษมีกำหนดเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค. ฝรั่งเศส เยอรมนี อียู และสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต นอกจากนี้ สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.ด้วย และอังกฤษมีกำหนดเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต/ซีไอพีเอส และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต/ซีไอพีเอส


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ