ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวินแห่งไต้หวันเปิดเผยว่า ไต้หวันจะทำการเปิดเสรีเศรษฐกิจต่อไป และนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินและบริหารสินทรัพย์ของภูมิภาคเอเชีย ขณะที่ศูนย์กลางการเงินอย่างฮ่องกงกำลังเผชิญกับภาวะปั่นป่วนทางการเมือง
นางไช่กล่าวกับกลุ่มธุรกิจ Third Wednesday Club เมื่อวานนี้ว่า บริษัทต่างประเทศมีความสนใจในไต้หวันมากขึ้น โดยระบุว่า "บริษัทชั้นนำ, เงินทุน, ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีจากต่างประเทศจำนวนมากขึ้นให้ความสนใจ และเพิ่มการลงทุนมากขึ้นในไต้หวัน"
"รัฐบาลจะยังคงใช้มาตรการเปิดกว้างมากขึ้น, เพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย, ขยายขอบเขตธุรกิจบริหารจัดการความมั่งคั่งของเรา และทำให้ไต้หวันกลายเป็นศูนย์กลางการเงินธุรกิจของเอเชีย และศูนย์กลางการจัดการสินทรัพย์ระดับสูง" นางไช่กล่าว
ทั้งนี้ ไต้หวันซึ่งพึ่งพาการส่งออกและมีเศรษฐกิจที่เปิดกว้างอย่างมากอยู่แล้ว กำลังพยายามที่จะลดการพึ่งพาการค้ากับจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด แต่ก็เป็นคู่แข่งทางการเมืองด้วย เนื่องจากจีนอ้างว่าไต้หวันเป็นดินแดนของจีน
ความไร้เสถียรภาพของฮ่องกงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงนั้น ได้ทำให้เกิดคำถามว่า ฮ่องกงจะยังคงสามารถเป็นศูนย์กลางการเงินหลักของภูมิภาคเอเชียได้นานเพียงใด
ขณะที่ไต้หวันยังไม่มีแนวโน้มที่จะขึ้นมาแทนที่ฮ่องกงในเร็วๆ นี้ แต่รัฐบาลไต้หวันก็หวังที่จะฉวยโอกาสนี้เพื่อดึงดูดผู้เชี่ยวชาญและเงินทุนจากฮ่องกง