World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 21 สิงหาคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 21, 2020 08:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คาดตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กซึ่งปิดบวกเมื่อคืนนี้ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างคึกคัก ท่ามกลางความหวังที่ว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจะฟื้นตัวเร็วกว่าภาคส่วนอื่นๆในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 โดยแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากตัวเลขคนว่างงานในสหรัฐที่สูงกว่าการคาดการณ์

-- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีบริษัทสหรัฐที่ไม่ยอมกลับมาจ้างงานคนในประเทศหากตนได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้นำอีกสมัย ส่วนบริษัทที่ย้ายแรงงานกลับประเทศจะได้รับเครดิตภาษี

-- จับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันที่ 27-28 ส.ค. โดยการประชุมดังกล่าวจะปรับรูปแบบเป็นการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในหัวข้อ "Navigating the Decade Ahead: Implications for Monetary Policy" ซึ่งถือเป็นการปรับรูปแบบการประชุมครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 22,607,156 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 791,622 ราย

สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (5,701,390) รองลงมาคือบราซิล (3,460,413), อินเดีย (2,841,400), รัสเซีย (942,106), แอฟริกาใต้ (596,060) และเปรู (558,420)

นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (176,365) ตามมาด้วยบราซิล (111,189), เม็กซิโก (58,481), อินเดีย (54,017) และสหราชอาณาจักร (41,397)

-- องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกโรงเตือนว่า การที่ยุโรปผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการที่ประชาชนไม่ได้ใส่ใจต่อการดูแลตนเอง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดรอบใหม่ในขณะนี้

ทั้งนี้ เยอรมนีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 1,707 รายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ขณะที่สเปนมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,715 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.เช่นกัน

-- บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะทำการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เฟส 3 ในเดือนก.ย. โดยจะมีอาสาสมัครเข้าร่วมในโครงการมากถึง 60,000 ราย

การทดลองดังกล่าวจะมีขึ้นในสถานที่ราว 180 แห่งทั้งในสหรัฐและประเทศต่างๆ โดยอาสาสมัครจะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป

การทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ของ J&J ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่บริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นาจะทำการทดลองวัคซีนโดยมีอาสาสมัครเพียง 30,000 ราย

-- นายคิริล ดมิทริฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกองทุนความมั่งคั่ง RDIF ของรัสเซีย ซึ่งให้การสนับสนุนการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 กล่าวว่า รัสเซียจะเริ่มการทดลองวัคซีนเฟสที่ 3 ในสัปดาห์หน้า โดยจะมีอาสาสมัครในโครงการกว่า 40,000 ราย

การทดลองดังกล่าวจะมีการดำเนินการในศูนย์การแพทย์จำนวนมากกว่า 45 แห่งทั่วรัสเซีย

นายดมิทริฟกล่าวว่า รัสเซียจะเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนดังกล่าวในวารสารทางการแพทย์ในเดือนนี้ เพื่อคลายความกังวลของหลายฝ่ายที่ยังไม่แน่ใจต่อประสิทธิภาพของวัคซีน

-- บริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน เปิดเผยผลประกอบการแข็งแกร่งในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. ซึ่งเป็นไตรมาสแรกตามปีงบการเงินบริษัท โดยได้รับอานิสงส์จากตลาดอีคอมเมิร์ซที่สดใส เนื่องจากผู้บริโภคเพิ่มการใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ แม้ว่ารัฐบาลได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ทั้งนี้ บริษัทเปิดเผยว่ารายได้พุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.5375 แสนล้านหยวน (2.222 หมื่นล้านดอลลาร์) สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 1.1492 แสนล้านหยวน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.4777 แสนล้านหยวน

-- กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 4,339 ราย ส่งผลให้ขณะนี้ฟิลิปปินส์มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 178,022 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตรายใหม่จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีจำนวน 88 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 2,883 ราย

ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงที่สุดในอาเซียน โดยมีจำนวน 6,418 ราย และมีผู้ติดเชื้อจำนวน 147,211 ราย

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.106 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 923,000 ราย

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังได้ปรับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่มีการรายงานในสัปดาห์ที่แล้ว โดยปรับเพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 971,000 ราย

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ได้กลับมาพุ่งขึ้นสูงกว่า 1 ล้านราย หลังจากทำสถิติต่ำกว่า 1 ล้านรายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. ขณะที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.867 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมี.ค.

Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ดีดตัวขึ้น 1.4% ในเดือนก.ค. หลังจากพุ่งขึ้นกว่า 3% ในเดือนมิ.ย.และพ.ค. ขณะที่ดิ่งลง 6.3% ในเดือนเม.ย.

Conference Board ระบุว่า ดัชนี LEI เริ่มชะลอตัวในเดือนก.ค. หลังจากพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งสะท้อนถึงการเปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่ หลังจากที่กิจกรรมในภาคธุรกิจหยุดชะงักลงจากการที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ ดัชนี LEI ถือเป็นสิ่งบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคำนวณจากตัวเลขเศรษฐกิจ 10 รายการ ซึ่งรวมถึงคำสั่งซื้อใหม่ของภาคการผลิต, ราคาหุ้น และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ มาร์กิตมีกำหนดรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-บริการขั้นต้นเดือนส.ค. ของฝรั่งเศส เวลา 14.15 น. ตามเวลาไทย ต่อด้วยของเยอรมนี เวลา 14.30 น. ของยูโรโซน เวลา 15.00 น. ของสหราชอาณาจักร เวลา 15.30 น. ปิดท้ายด้วยของสหรัฐ เวลา 20.45 น.

ทางการสหรัฐจะรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. เวลา 21.00 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ