นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐและเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว เปิดเผยกับสื่ออังกฤษว่า นักวิจัยอาจคิดค้นวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ได้อย่างเร็วในเดือนพ.ย.นี้ เมื่อประเมินจากความก้าวหน้าในการศึกษาวิจัย
นายแพทย์ฟอซี คาดการณ์ว่า การวิจัยที่กำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็วขณะนี้อาจทำให้คิดค้นวัคซีนที่ปลอดภัยและได้ผลอย่างน้อยไม่ภายในเดือนพ.ย. ก็เดือนธ.ค. ปีนี้ อย่างไรก็ดี วัคซีนดังกล่าวควรได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยจริง ไม่ควรเอาแต่รีบพัฒนาเพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
ก่อนหน้านี้ นายแพทย์ฟอซีได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับการใช้อำนาจตามมาตรการฉุกเฉิน (Emergency Use Authorization หรือ EUA) เพื่ออนุมัติให้มีการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 อย่างเร่งด่วน โดยระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวจะทำลายความพยายามในการพัฒนาวัคซีนตัวอื่นๆ
คำเตือนดังกล่าวของนายแพทย์ฟอซีมีขึ้นหลังจากคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาให้สถานะ "frast track" ให้แก่วัคซีนที่อยู่ในขั้นทดลองและพัฒนาโดยบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในอังกฤษ เพื่อนำวัคซีนดังกล่าวมาใช้ในสหรัฐ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.นี้
สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุด บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะทำการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เฟส 2 ในสเปน เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี ในสัปดาห์นี้
การทดลองดังกล่าวจะใช้เวลา 2 เดือน โดยจะมีอาสาสมัครเข้าร่วมในโครงการ 550 ราย
ด้านโนวาแวกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐ ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อสัปดาห๋ที่แล้วว่า บริษัทเริ่มเปิดรับอาสาสมัครเข้าร่วมการทดสอบวัคซีนในระยะที่ 2 แล้ว และคาดว่าจะเสร็จสิ้นการดำเนินการทดลองทางคลินิกในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
ขณะเดียวกัน โมเดอร์นา ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ แถลงผลการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ในเฟสแรกกับอาสาสมัครที่มีอายุมาก โดยได้ผลเป็นที่น่าพอใจเหมือนกับที่ทดลองกับอาสาสมัครในวัยหนุ่มสาว