ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 450 จุดเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) ทำสถิติทะยานขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค.ปีนี้ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq เดินหน้าทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี (defensive stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มสาธารณูปโภค ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงได้รับแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความหวังที่ว่าบริษัทเทคโนโลยีจะได้ประโยชน์สูงสุดจากการที่ประชาชนต้องพึ่งพาระบบออนไลน์ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,100.50 จุด เพิ่มขึ้น 454.84 จุด หรือ +1.59%
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้ทวีตข้อความแสดงความพอใจที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นมายืนเหนือระดับ 29,000 จุดได้เมื่อคืนนี้ และทำสถิติทะยานขึ้นวันเดียวแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยเขากล่าวว่า ชาวอเมริกันโชคดีที่มีตนเป็นประธานาธิบดี
"ดัชนีดาวโจนส์ปิดเหนือระดับ 29,000 จุด! พวกคุณโชคดีที่มีผมเป็นประธานาธิบดี แต่ Hiden จะทำให้ตลาดหุ้นล่มสลาย" ปธน.ทรัมป์ระบุผ่านทวิตเตอร์ โดยคำว่า Hiden เป็นชื่อที่ปธน.ทรัมป์ใช้เรียกนายโจ ไบเดน ซึ่งเป็นคู่ชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐในเดือนพ.ย.นี้
-- นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันในสหรัฐกำลังอยู่ในระดับสูงจนยอมรับไม่ได้
นายแพทย์ฟอซีกล่าวว่า สหรัฐพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวนราว 40,000 รายในแต่ละวัน และจำเป็นต้องลดจำนวนดังกล่าวให้เหลือเพียง 10,000 ราย หรือน้อยกว่านั้น
-- นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า ตนได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ เมื่อวานนี้ แต่ทั้งสองยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
"เป็นเรื่องน่าเสียดายที่การหารือทางโทรศัพท์ดังกล่าวบ่งชี้ว่า พรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับสถานการณ์ความยากลำบากที่ชาวอเมริกันกำลังเผชิญอยู่" นางเพโลซีกล่าว
-- นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า กรอบนโยบายใหม่ของเฟดได้แสดงให้เห็นว่า ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งไม่ใช่สาเหตุที่จะทำให้เกิดความกังวล นอกจากว่าจะมีสัญญาณการเกิดความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ หรือเสถียรภาพทางการเงิน
"แถลงการณ์ของเฟดบ่งชี้ว่า หากไม่มีความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน หรือแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ การจ้างงานที่แข็งแกร่งก็จะไม่ทำให้เกิดความวิตก และเฟดจะไม่ใช้นโยบายทางการเงินในการจัดการเรื่องนี้" นางเมสเตอร์กล่าว
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เกาหลีใต้มีกำหนดเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนส.ค. ออสเตรเลียเตรียมเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ค. จีนเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนส.ค.จากไฉซิน ขณะที่มาร์กิตจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนส.ค. ของฝรั่งเศส, เยอรมนี อียู และสหรัฐ รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.ของอังกฤษซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับซีไอพีเอส ด้านอียูจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค. และสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ค. และดัชนีภาคบริการเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐโดย ISM
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ออสเตรเลียมีกำหนดเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค. เยอรมนีจะยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค. และสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.