World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 8 กันยายน 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 8, 2020 08:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผลสำรวจของ FiveThirtyEight เมื่อวานนี้บ่งชี้ว่า นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตมีโอกาสชนะเลือกตั้ง 71.1% โดยคาดว่าเขาจะชนะคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) จำนวน 334 เสียงจากทั้งหมด 538 เสียง และนายไบเดนยังมีโอกาสชนะเลือกตั้งจากคะแนนสนับสนุนของประชาชน (popular vote) เท่ากับ 84.1%

ส่วนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันจะได้รับคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งเพียง 28.4% และได้คะแนนสนับสนุนจากประชาชนเพียง 15.98%

-- สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีวิทยาของอินโดนีเซียรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหว 6.2 แมกนิจูดนอกชายฝั่งของจังหวัดมาลูกุทางตะวันออกของอินโดนีเซียในช่วงเช้าวันนี้

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหาย และยังไม่มีการเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่า สหรัฐอาจอนุมัติวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเดือนต.ค.นี้ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.

"แทนที่จะต้องใช้เวลานานถึง 2 หรือ 3 ปี เราควรใช้เวลาสั้นๆ ในการอนุมัติวัคซีนต้านโควิด-19 และการอนุมัติควรจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนต.ค." ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเปิดเผยในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาวว่า เขาจะลดระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีน พร้อมกับขู่ว่าจะใช้มาตรการลงโทษบริษัทของสหรัฐที่ไปสร้างงานในต่างประเทศ และจะกีดกันบริษัทที่เข้าไปลงทุนในประเทศจีนไม่ให้ได้รับสัญญาทางธุรกิจกับรัฐบาลกลางสหรัฐ

"เราจะผลิตชิ้นส่วนสำคัญที่ใช้ในด้านการผลิตภายในประเทศของเรา เราจะให้เครดิตภาษีแก่สินค้าที่ตีตรา 'Made in America' และเราจะนำตำแหน่งงานกลับคืนสู่สหรัฐ ขณะเดียวกันเราจะเรียกเก็บภาษีบริษัทที่ออกไปสร้างงานในจีนและในประเทศอื่นๆ หากบริษัทเหล่านี้ไม่สามารถทำธุรกิจในสหรัฐได้ ก็ปล่อยให้พวกเขาเสียภาษีก้อนใหญ่เพื่อจะออกไปสร้างงานในต่างประเทศ และส่งสินค้ากลับมาขายในประเทศเรา" ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์

-- สำนักคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นปรับลดประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ของญี่ปุ่น หดตัวลง28.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากรายงานตัวเลขประมาณการเบื้องต้นซึ่งหดตัว 27.8%

เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส GDP ของญี่ปุ่นหดตัวลง 7.9% ในไตรมาส 2 ซึ่งแย่กว่ารายงานตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าหดตัว 7.8%

-- นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของการอนามัยโลก (WHO) เตือนให้ประเทศทั่วโลกเตรียมความพร้อมสำหรับการแพร่ระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19 พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ลงทุนด้านสาธารณสุขเพิ่มขึ้น

"สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ยังไม่ใช่การแพร่ระบาดครั้งสุดท้าย ประวัติศาสตร์สอนเราว่า การแพร่ระบาดเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต แต่เมื่อการแพร่ระบาดครั้งใหม่เกิดขึ้น ทั่วโลกจะเตรียมตัวให้พร้อม และต้องเป็นความพร้อมที่ดีกว่าในขณะนี้" นายแพทย์กีบรีเยซุส กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงเจนีวาเมื่อวานนี้

-- ศูนย์ความปลอดภัยด้านอาหาร (CFS) ของฮ่องกง ตัดสินใจระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากแคว้นตูย์เมนสกายา ประเทศรัสเซีย เนื่องจากมีการระบาดของไข้หวัดนก

CFS ระบุว่า องค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) ได้แจ้งเตือนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5 ในแคว้นตูย์เมนสกายาของรัสเซีย ทาง CFS จึงตัดสินใจระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกรวมถึงไข่จากพื้นที่ดังกล่าวทันที เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนในฮ่องกง

-- กระทรวงสาธารณสุขเมียนมารายงานว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 54 รายเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,518 ราย

รายงานระบุว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเมืองมัณฑะเลย์ เมืองย่างกุ้ง รัฐยะไข่ และรัฐมอญ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมียนมาพบผู้ติดเชื้อโควิด 2 รายแรกในวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้มีการตรวจหาเชื้อโควิดให้ประชาชนไปแล้ว 166,433 ครั้ง โดยผู้ที่ได้รับการรักษาจนหายดีอยู่ที่ 388 ราย และมีผู้เสียชีวิต 8 ราย

-- ฮาลิแฟ็กซ์ ผู้ให้สินเชื่อจำนองรายใหญ่ของอังกฤษ เปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.2% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือว่าพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2559 ส่งผลให้ราคาบ้านโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 245,747 ปอนด์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ทะยานเหนือระดับ 245,000 ปอนด์

นายรัสเซลล์ แกลลีย์ กรรมการผู้จัดการของฮาลิแฟ็กซ์ กล่าวว่า กิจกรรมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นหลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ได้ช่วยผลักดันราคาบ้านให้ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เขาคาดว่าราคาบ้านไม่น่าจะยืนอยู่ในระดับสูงเช่นนี้ในระยะยาว

-- ผลสำรวจของธนาคารกลางสิงคโปร์เผยว่า นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสิงคโปร์จะหดตัว 6% ในปี 2563

นับเป็นครั้งที่สามในปีนี้ที่นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP สิงคโปร์ โดยในการสำรวจของธนาคารกลางสิงคโปร์เมื่อเดือนมี.ค. นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP สิงคโปร์จากโต 1.5% เหลือ 0.6% ต่อมาในเดือนมิ.ย. ได้ปรับลดคาดการณ์อีกครั้งจากโต 0.6% เป็นหดตัว 5.8%

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนก.ค. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 (ประมาณการครั้งสุดท้าย), ออสเตรเลียเปิดเผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนส.ค.จากเนเชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB), เยอรมนีเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ค., ฝรั่งเศสเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ค., อียูเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และสหรัฐเปิดเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนส.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยอัตราว่างงานเดือนส.ค., ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากเวสต์แพค, จีนเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค., และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. และสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ