สถาบัน Institute for Health Metrics and Evaluation (IHME) ที่วิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน คาดการณ์ว่า เดือนธันวาคมเป็นเดือนมรณะ หรือ "Deadly December" ซึ่งจะมีผู้เสียชีวิตเกือบ 30,000 รายในแต่ละวัน เนื่องจากซีกโลกเหนือจะเข้าสู่หน้าหนาว
ดร.คริสโตเฟอร์ เมอร์เรย์ ผู้อำนวยการสถาบัน IHME เปิดเผยว่า ไวรัสโคโรนาจะแพร่กระจายได้ดีกว่าในสภาพอากาศหนาวเย็น เหมือนกับโรคปอดบวม เป็นเหตุให้เดือนธ.ค. เป็นเดือนที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ดร.เมอร์เรย์ ยังเตือนให้การ์ดอย่าตก โดยกล่าวว่า "วิทยาศาสตร์พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนพร้อมหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การสวมหน้ากาก รักษาระยะห่างทางสังคม และจำกัดการรวมตัวพบปะสังสรรค์ เป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยยับยั้งการระบาดของไวรัสดังกล่าว"
ขณะเดียวกัน ดร.เมอร์เรย์ ยังย้ำเตือนไม่ให้ใช้ยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า "ภูมิคุ้มกันหมู่" (herd immunity) ซึ่งหมายถึงภูมิคุ้มกันหมู่ที่เกิดขึ้นหลังจากประชากรจำนวนมากมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสจากการติดเชื้อและหายจากโรคแล้ว โดยกล่าวว่า ภูมิคุ้มกันหมู่ "ละเลยทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และศีลธรรม ด้วยการปล่อยให้หลายล้านชีวิตต้องถูกคร่าไปทั้งที่หลีกเลี่ยงได้"
สำหรับตัวเลขคาดการณ์ยอดผู้เสียชีวิตนั้น ในกรณีที่มีแนวโน้มจะเกิดที่สุด จากข้อสันนิษฐานว่าการสวมหน้ากากของประชาชนและมาตรการรับมืออื่น ๆ ยังคงเป็นเหมือนเดิม ยอดผู้เสียชีวิตโดยรวมจะอยู่ที่ราว 2.8 ล้านคน ณ วันที่ 1 ม.ค. 2564
10 ประเทศที่คาดว่าจะมียอดผู้เสียชีวิตรวมสูงสุด ณ วันที่ 1 ม.ค. ปีหน้า เมื่อประเมินจากกรณีที่มีแนวโน้มจะเกิดที่สุดนั้น ได้แก่ อินเดีย สหรัฐ บราซิล เม็กซิโก ญี่ปุ่น รัสเซีย ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร สเปน และฟิลิปปินส์