Waresix (แวร์ซิกซ์) แพลตฟอร์มด้านเทคโนโลยีโลจิสติกส์ของอินโดนีเซีย ประกาศปิดการระดมทุนวงเงิน 100 ล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศ หลังมองเห็นช่องทางในการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาภาคโลจิสติกส์ ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย เนื่องด้วยความที่เป็นประเทศหมู่เกาะ จึงทำให้การกระจายสินค้าเป็นปัญหาที่สำคัญปัญหาหนึ่งของประเทศ
สำหรับบริษัทที่ร่วมลงทุนในครั้งนี้ มีทั้งนักลงทุนรายเดิมอย่าง EV Growth และ Jungle Ventures และนักลงทุนรายใหม่ ซึ่งได้แก่ SoftBank Ventures Asia, EMTEK Group, Pavilion Capital และ Redbadge Pacific
Waresix เปิดเผยว่า อินโดนีเซียเป็นหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก การกระจายสินค้าจึงเป็นปัญหาสำคัญ บริษัทจึงมุ่งใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการแก้ไขปัญหา และพลิกวงการธุรกิจขนส่งและคลังสินค้ามูลค่า 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ของประเทศ
ทั้งนี้ Waresix นำเสนอโซลูชันที่ไม่เหมือนใครเพื่อจัดการกับความท้าทายเรื่องการกระจายสินค้า ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศให้เหลือ 19% ของ GDP นอกจากนี้ บริษัทยังมีเครือข่ายครอบคลุมรถบรรทุกกว่า 40,000 คัน และคลังสินค้า 375 แห่งในกว่า 100 เมืองใหญ่และเมืองเล็กทั่วอินโดนีเซีย
ปัจจุบัน Waresix ให้บริการลูกค้าในภาคองค์กรธุรกิจชื่อดังกว่า 250 รายจากอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงลูกค้าภายในอุตสาหกรรมสินค้าโภคภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภคที่ขายได้เร็ว วัสดุสิ้นเปลืองในอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐาน และค้าปลีก โดยมีลูกค้าชื่อดัง อาทิ Unilever, Indofood, Siam Cement Group, Wings, JD.ID และบริษัทข้ามชาติอีกมากมาย
Andree Susanto ซีอีโอของ Waresix กล่าวว่า "เรามีความยินดีที่ได้ร่วมงานกับกลุ่มนักลงทุนและพันธมิตรระยะยาวที่มีคุณภาพสูง ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุน Waresix ในเส้นทางเดินทางของเราเพื่อเป็นเครื่องยนต์ใหม่ที่ขับเคลื่อนการค้าและพาณิชย์ให้ขยายตัวในอินโดนีเซีย เงินลงทุนนี้จะถูกนำไปลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยกระดับทีมงานระดับเวิลด์คลาสของเราขึ้นมาเพื่อช่วยให้เราคว้าโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ในตลาด"
ด้าน Edwin Wibowo ซีเอฟโอของ Waresix กล่าวว่า "เราไม่ได้ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังมีความมุ่งมั่นเพื่อแก้ไขปัญหาที่แท้จริง และการคิดค้นนวัตกรรมผ่านเทคโนโลยี เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ลูกค้ารักพวกเรา และธุรกิจของเราก็ยังคงพัฒนาต่อไปจนถึงทุกวันนี้"