สหรัฐผ่อนคลายการเตือนเดินทางไปยังจีน โดยยอมรับว่าจีนมีความคืบหน้าในการควบคุมโรคโควิด-19 โดยกระทรวงการต่างประเทศยังคงเรียกร้องให้ชาวอเมริกันทบทวนการเดินทางไปยังจีน แต่ได้ยกเลิกคำเตือนแบบครอบคลุมที่ไม่ให้ประชาชนเดินทางไปยังประเทศดังกล่าว
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุเมื่อวานนี้ว่า จีนได้กลับมาดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่แล้ว ซึ่งรวมถึงธุรกิจการดูแลเด็กและโรงเรียน อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศยังคงเตือนประชาชนสหรัฐเกี่ยวกับความเสี่ยงของการจับกุมตัวโดยพลการในจีน รวมถึงในฮ่องกง เนื่องจากจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่เข้มงวด
-- บริษัทเทนเซ็นต์ โฮลดิ้งของจีนได้เลือกสิงคโปร์เป็นหัวหาดใกล้บ้านในภูมิภาคเอเชีย เช่นเดียวกับบริษัทคู่แข่งอย่าง อาลีบาบา กรุ๊ปและไบต์แดนซ์ หลังจากที่ถูกแบนจากสหรัฐและอินเดีย
ผู้บริหารของเทนเซ็นต์ซึ่งเป็นบริษัทด้านโซเชียลมีเดียและเกมรายใหญ่ที่สุดของจีนได้หารือกันเกี่ยวกับการให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางในภูมิภาคเอเชีย และกำลังพิจารณาย้ายการปฏิบัติการทางธุรกิจ รวมถึงการเผยแพร่เกมระหว่างประเทศออกจากประเทศจีน
-- สมาชิกสภานิติบัญญัติของอังกฤษลงมติรับร่างกฎหมาย Internal Market Bill ด้วยคะแนนเสียง 340 ต่อ 263 เสียง ซึ่งจะเปิดทางให้มีการอภิปรายรายละเอียดของร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นเวลา 4 วันในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายใหม่ดังกล่าวจะมาแทนที่สนธิสัญญา Brexit บางส่วนที่อังกฤษทำไว้กับสหภาพยุโรป (EU) ในปีที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับ EU ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และทำให้มีโอกาสน้อยลงที่อังกฤษและ EU จะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกันก่อนครบกำหนดเส้นตาย Brexit ในเดือนธ.ค.ปีนี้
-- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้และปีหน้า ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอินเดีย และประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย
ทั้งนี้ โอเปกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันในปีนี้จะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 90.2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยลดลง 400,000 บาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนส.ค. นอกจากนี้ ตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดังกล่าว ลดลง 9.5 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับอุปสงค์ในปีที่แล้ว
-- อิสราเอลเป็นประเทศแรกในโลกที่ประกาศล็อกดาวน์ประเทศเป็นครั้งที่ 2 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศวานนี้ว่า อิสราเอลจะทำการล็อกดาวน์ประเทศอีกครั้งเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
การประกาศมาตรการล็อกดาวน์ดังกล่าว จะส่งผลให้ชาวอิสราเอลไม่สามารถเดินทางไกลกว่า 500 เมตรจากบ้านของตน ขณะที่มีการสั่งปิดโรงเรียนและศูนย์การค้า แต่ร้านขายยาและซูเปอร์มาร์เก็ตจะยังคงเปิดทำการ
-- บริษัทออราเคิล คอร์ป ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ทางบริษัทสามารถบรรลุข้อตกลงกับบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อก (TikTok) ในการซื้อกิจการ TikTok ในสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ข้อตกลงดังกล่าวยังต้องผ่านการอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐ
ทางด้านนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะพิจารณาข้อตกลงดังกล่าวในสัปดาห์นี้
"ในมุมมองของเรา เราจะให้ความสำคัญต่อความปลอดภัย โดยเราต้องมั่นใจว่าข้อมูลของชาวอเมริกันจะมีความปลอดภัย และโทรศัพท์จะมีความปลอดภัย โดยฝ่ายเทคนิคของเราจะเจรจากับออราเคิลในอีกไม่กี่วัน" นายมนูชินกล่าว
-- ตลาดการเงินจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 ก.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะให้รายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับ "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้กล่าวถึงในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ โดยเฟดจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุม, จีนเปิดเผยการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. และยอดค้าปลีกเดือนส.ค., อังกฤษเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ค. และสหรัฐเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.ย.จากเฟดนิวยอร์ก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดนำเข้า, ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนส.ค., อังกฤษเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., อียูเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ค., สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA), คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (เช้าวันที่ 17 ก.ย.)