นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า ราคาทองคำอาจพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนสิ้นปีนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนส่วนหนึ่งจากความเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
อาคัช โดชี นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยในรายงานแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์รายไตรมาสว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และผลการเลือกตั้งที่อาจจะเป็นไปอย่างล่าช้านั้น อาจเป็นแรงผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งขึ้น โดยซิตี้กรุ๊ปคาดว่า สัญญาทองคำล่วงหน้าจะพุ่งขึ้นมากกว่า 200 ดอลลาร์จากระดับปัจจุบัน
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดวานนี้ที่ระดับ 1,907.6 ดอลลาร์/ออนซ์
การคาดการณ์ของซิตี้กรุ๊ปสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต
นอกจากนี้ สถานการณ์การเลือกตั้งยังมีความซับซ้อนมากขึ้น หลังจากการเสียชีวิตของนางรูธ เบเดอร์ กินสเบิร์ก ผู้พิพากษาศาลสูงสุดของสหรัฐ เมื่อปธน.ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะเสนอชื่อผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งแทนนางกินสเบิร์กในวันเสาร์นี้
ทางด้านไบเดนได้เรียกร้องให้วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันคว่ำการโหวตเลือกผู้ที่ปธน.ทรัมป์เสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูงสุดคนใหม่แทนนางกินสเบิร์ก โดยกล่าวว่า การกระทำของปธน.ทรัมป์เป็นการใช้อำนาจทางการเมืองที่แยบยล เพราะหากการแต่งตั้งได้รับอนุมัติจากวุฒิสภา ก็จะทำให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมครองเสียงข้างมากในศาลสูงสุดด้วยสัดส่วนสูงถึง 6 ต่อ 3 เสียง ซึ่งอาจส่งผลต่อกฎหมายและชีวิตชาวสหรัฐไปอีกหลายสิบปี พร้อมกับกล่าวว่า ประชาชนสหรัฐควรจะเป็นผู้ตัดสินว่าใครควรจะมีสิทธิ์เสนอชื่อผู้พิพากษาศาลสูงสุดคนใหม่
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอาจเป็นแรงกระตุ้นให้ราคาทองคำดีดตัวเร็วขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ แม้ในประวัติศาสตร์ไม่มีการบันทึกเกี่ยวกับรูปแบบของราคาทองคำในช่วงก่อนหรือหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และเชื่อว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ก่อนสิ้นปีนี้